ผบช.สตม. นำทีมตำรวจ ตม. แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติก่ออาชญากรรมรวม 4 คดี
วันนี้ (23 ธ.ค.62) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สตม. แถลงผลจับกุมผู้กระทำผิดชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาสร้างความเสียหายต่อประเทศ หรือทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทย รวม 4 คดี
พล.ต.ท.สมพงษ์ เปิดเผยว่า สำหรับคดีแรกเป็นการจับกุมพระเขมรหลบหนีเข้าเมือง โดยได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์ ว่ามีพระสงฆ์แปลกหน้าจำนวน 2 รูป เดินบิณฑบาตอย่างผิดปกติวิสัยของพระสงฆ์ไทยทั่วไป มีพฤติการณ์ขอรับเงินจากชาวบ้านแต่ไม่รับอาหารและมีลักษณะอาการท่าทางพิรุธ เจ้าหน้าที่ตม.เพชรบูรณ์ ได้ตรวจสอบพระทั้ง 2 รูป ให้การยอมรับว่าเป็นคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา เดินทางหลบหนีเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จ.สระแก้ว ไม่มีหนังสือเดินทางไม่มีบัตรผ่านและไม่ผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่ตม. จึงแจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อนำตัวดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า รายคดีที่สอง สืบเนื่องจากตม.เชียงใหม่ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในท้องที่ได้รับข้อมูลว่ามี รร.สอนภาษาและคอมพิวเตอร์เกียรติพัฒนา (CEC) ใน ต.ไชยสถาน อ.สารภี รับคนต่างด้าวเข้ามาสอนภาษาให้แก่นักเรียนโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน จากการตรวจสอบพบ น.ส.กุลนารี ผู้จัดการ รร.ดังกล่าว และ มิสแพททรีเซีย อายุ 57 ปี ถือหนังสือเดินทางสัญชาติอเมริกันในฐานะนักท่องเที่ยวและไม่มีใบอนุญาตทำงาน จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้น.ส.กุลนารี มีความผิดฐานรับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต และมิสแพททรีเซีย เป็นต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตหรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้
ส่วนอีกคดี เป็นการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติเกาหลีที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ชื่อนายหยาง อายุ 44 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ ที่ใช้วีซ่าประเภท ผ.ผ 90 และวีซ่าหมดอายุ (overstay 332 วัน) และเป็นบุคคลประเภทติดตามเฝ้าระวัง Red notice (หมายแดง interpol) จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และนายโน อายุ 39 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้าไทยเมื่อ 16 ส.ค.62 และออกเมื่อ 8 พ.ย.62 โดยผ่านทางจุดตรวจสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาร์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ส่วนรายคดีที่ 4 เป็นการจับกุมตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมาใช้หนังสือเดินทางปลอมรอยตราประทับ ที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย ผู้ถูกจับให้สารภาพว่ามีการใช้รอยตราประทับปลอมและมีการลักลอบเดินทางออกโดยใช้เส้นทางธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า ทางสตม.ได้รับผิดชอบดูแลในเรื่องอาชญากรรมข้ามชาติและบุคคลต่างชาติที่มาก่อเหตุในไทย รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ จะมีการระดมกำลังประสานกับตำรวจในพื้นที่และตำรวจท่องเที่ยวมีการตรวจตราระบบพาสปอร์ต และช่วยเป็นล่ามแปลภาษาในท้องที่ คาดว่ามาตรการต่างๆจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
***กล้องน้าโจ้