สังคมออนไลน์แห่แชร์ พร้อมติดแฮชแท็ก #Saveแหม่มโพธิ์ดำ หลังออกมาแฉข้อมูลคนติดตามรัฐมนตรีชื่อดัง นัดคุยกับนักธุรกิจผลิตหน้ากากอนามัย มีสต็อกมากกว่า 200 ล้านชิ้น ก่อนส่งออกไปขายให้จีน
ช่วงดึกที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊กชื่อดัง แหม่มโพธิ์ดำ โพสต์ข้อความมีใจความว่า “มีนักข่าวคนไหนสนใจทำข่าว คนสนิทผู้ติดตามรัฐมนตรีท่านหนึ่ง มีหน้ากากในสต็อกเป็นล้านอัน พร้อมหลักฐาน ติดต่อหลังไมค์ได้นะ ชาวโซเชียลหาเจอคนอมหน้ากากแล้วล่ะ”
จากนั้นโพสต์รูปภาพแคชเชียร์เช็คจำนวนเงิน 14 ล้านบาท ลงในช่องคอมเมนต์ โดยมีข้อความกำกับว่า “ซื้อ 8210 1 ล้านชิ้น เช็คใบที่ 2 ใช้ซื้อวันที่ 20/02/2020”
ตามด้วยรูปภาพจากเฟซบุ๊กของชายคนหนึ่ง ที่เป็นเสี่ยเจ้าของตลาดนัดแห่งหนึ่ง และมีตำแหน่งเป็น กก.ตร. ของสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรี โดยมีการโพสต์ขายหน้ากากอนามัยเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ว่ามีหน้ากาก 5 ล้านชิ้น ราคาเบา ๆ จับต้องได้ ราคา 14 บาทต่อชิ้น ซึ่งใช้ในโรงพยาบาลและทางการแพทย์ แถมยังไม่แบ่งขาย จะขายทีละ 1 ล้านชิ้น #ทำงานเป็นทีม
เมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมจากเฟซบุ๊กคนดังกล่าว พบว่าเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ มีการโพสต์รูปภาพกล่องบรรจุหน้ากากอนามัย พร้อมระบุว่า มีหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น และโชว์ภาพสมุดธนาคารแห่งหนึ่งที่มีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท และโพสต์ภาพหารือกับคู่ค้าที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งระบุว่าเป็นคู่ค้าการขายของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศจีน และยังโพสต์รูปคู่กับคนติดตามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่ง พร้อมกับภาพบัตรประจำตัว และนามบัตรคนติดตามรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคนดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีคลิปภาพขณะที่คนงานกำลังขนลังขนาดใหญ่ใส่ในรถกระบะบรรทุก ซึ่งคาดว่าภายในเป็นกล่องหน้ากากอนามัย จากนั้นก็มีเสียงผู้หญิงบรรยายว่า ตอนนี้กำลังรับของจากโรงงาน 200,000 ชิ้น แล้วอีกรอบหนึ่ง 2 ล้านกว่าชิ้น และเป็นสินค้ามีใบเซอทิฟฟะเคท หรือ ใบรับรอง สามารถส่งออกจีนได้ ซึ่งเป็นหน้ากากอนามัยที่ใช้ในห้องผ่าตัด มีทั้งหมด 3 ชั้น และสามารถป้องกันเชื้อโรคได้
จากนั้นไม่นาน มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาบอกว่า ตนมีสินค้าจำนวนมาก และเป็นสินค้าที่ใบรับรอง แต่ขอเพียงให้มีเงินมาซื้อสินค้าได้ และสินค้าที่คนงานกำลังขนเป็นการส่งออกไปประเทศจีน โดยสินค้าทั้งหมดถูกวางอยู่หน้าป้ายที่มีการใช้ถ่ายรูปกับนักธุรกิจชาวจีน เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และนอกจากนี้ ยังมีการโพสต์คลิปภาพที่คนงานกำลังขนลังสินค้าจำนวนมากขึ้นรถกระบะบรรทุกด้วย
ล่าสุด ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ชี้แจงว่า เรื่องที่คนสนิทกักตุนหน้ากากไม่เป็นความจริง นายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับผม ส่วน นายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของผม นั้น ได้ยืนยันว่าตนได้ไปพบกับ นายศรสุวีร์ จริง แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัย และเป็นการพบกันครั้งแรกเท่านั้น
เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ผมได้ขอให้ นายพิตตินันท์ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับ นายศรสุวีร์ ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัย และขายสินค้าเกินราคา และหากพบว่า นายพิตตินันท์ มีส่วนเกี่ยวข้องกระทำความผิด พร้อมดำเนินคดี
