ช่างเครื่องนกแอร์ซิ่ง BMW กลับบ้านชนขอบทางด่วนเฉลิมมหานครดับคาซากรถ
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 23 ก.ย. พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง รอง ผกก.(สอบสวน)สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งเหตุรถพุ่งชนขอบทางด่วนเฉลิมมหานคร แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. มีผู้เสียชีวิตจึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางด่วน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาลงกรณ์ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุอยู่บนทางด่วนช่วงก่อนถึงโค้งท่าเรือตรงช่องทางขวาสุดที่จะมุ่งหน้าดาวคะนอง ห่างจากด่านพระราม 4 ประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ ยี่ห้อ บีเอ็มดับเบิลยู 523i สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน 2กข 4031 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินเสียหายทั้งคันจนขาดออกเป็นสองท่อน และมีชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ที่บริเวณขอบคอนกรีตกลางถนน พบมีรอยครูดเฉี่ยวชน เป็นทางยาว ส่วนคนขับรถคันดังกล่าวร่างกระเด็นออกมาอยู่ริมแบริเออร์คอนกรีต ทรายชื่อต่อมาคือ นายธิติกุล เหมือนโถม อายุ 25 ปี อาชีพช่างซ่อมเครื่องบินส่ยการบินนกแอร์ อยู่บ้านเลขที่ 52 ซอยประชาอุทิศ 92 แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานครในสภาพสวมเสื้อยืดสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้น มีบาดแผลถลอกตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่จึงนำศพส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ก่อนเร่งเคลียร์ซากรถเพื่อเตรียมการรับสภาพการจราจรที่ติดขัดในช่วงเช้า
จากการสอบถาม นายภัทรพล เหมือนโถม อายุ 28 ปี พี่ชายผู้ตายซึ่งเดินทางมาดูศพน้องพร้อมญาติๆ ที่อยู่ในอาการโศกเศร้า เล่าว่า หลังเลิกงานทราบเพียงว่าน้องชายเดินทางไปทำธุระที่ย่านทองหล่อ คาดว่าตอนเกิดเหตุน่าจะขับรถส่วนตัวขึ้นทางด่วนรีบกลับบ้านไปพักผ่อนที่ย่านประชาอุทิศ ฝั่งธนบุรี ส่วนรานละเอียดเรื่องการจัดการศพขอพูดคุยกับญาติๆ อีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.ท.ฉัตรชัย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมติดต่อญาติมาให้ปากคำ เบื้องต้นทราบว่าไม่มีคู่กรณี โดยก่อนเกิดเหตุผู้ตายเดินทางมาคนเดียว หลังเลิกงานน่าจะรีบกลับบ้านย่านทุ่งครุ คาดว่าจะขับมาด้วยความเร็วก่อนชนเกาะกลางถนนแล้วเกิดเสียหลักจนทำให้คนขับกระเด็นออกมานอกรถจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะต้องทำการสอบสวนญาติอย่างละเอียด รวมถึง รอผลชันสูตรจากแพทย์ และไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่แท้จริง พร้อมกับประสานทางญาติผู้เสียชีวิตให้เข้ามาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก ชื่อ “Thitikul Muanthom” ซึ่งเป็นชื่อเดียวกับผู้เสียชีวิต พบว่ามีการโพสต์เมื่อ 2 วันก่อน โดยเป็นภาพใส่ชุดนักบิน และเครื่องบินของกองทัพอากาศไทย พร้อมมีข้อความ “ถึงเวลาปลดประจำการ ไปพักผ่อนให้หายเหนื่อย ขอบคุณสำหรับประสบการณ์นะ CT-4A -17/09/20
#goodbyeCT4A
#604SQDN
///////
