.
วันที่ 24 กันยายน พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการสกัดแรงงานผิดกฎหมายตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สามารถจับกุมนายหน้า และแรงงานผิดกฎหมายได้จำนวนหนึ่ง เช่น คดีที่ตำรวจจับคนขับรถตู้ดัดแปลงขนชาวกัมพูชา 23 คน ได้ที่บริเวณแยกโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เพื่อนำส่งปลายทางจังหวัดชลบุรี นครปฐม ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพมหานคร
.
จากการสอบสวนผู้ต้องหาสารภาพว่ารับค่าจ้างจากนายเอกเป็นเงิน 1,500 บาทต่อเที่ยวและต่อคน หากงานเสร็จ จะได้เพิ่มอีกตามจำนวนคนที่นำไปส่ง 100 บาทต่อคน ส่วนชาวกัมพูชาทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทาง โดยลักลอบเข้าเมืองทางช่องทางธรรมชาติ ด้วยวิธีเดินเท้า และเสียค่าดำเนินการให้นายหน้าคนละประมาณ 5,000 บาท เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย
.
อีกคดีตำรวจขยายผลจากการจับกุมแรงงานต่างขาติได้ก่อนหน้านี้ จนสามารถจับ นายมานะ และ นายพรมาลี สัญชาติไทย ขณะขับรถตู้ ขนชาวกัมพูชา 11 คน ได้ที่บริเวณด่านตรวจหนองสังข์ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งคนไทยทั้งสองคน สารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจาก นายทูน ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง รับจ้างขนแรงงานกัมพูชา ครั้งละ 5,000 บาทต่อเที่ยว เพื่อนำไปส่งบริเวณห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จังหวัดปทุมธานี เพื่อลักลอบเข้ามาทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขณะที่ ชาวกัมพูชาทั้งหมด ให้การว่า เสียเงินค่านายหน้าคนละ 3,500 – 4,000 บาท
.
นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ยังร่วมกับสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในพื้นที่ตลาดนัดจตุจักร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยใช้เวลา 2 วัน ตรวจแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น 76 ราย พบว่า ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและได้รับอนุญาตให้ทำงานถูกต้องตามกฎหมาย