สาว เสพยา 3 ขนาน ช๊อคดับคาห้อง เพื่อนอาการสาหัส ย่าน ถนนจันทน์
วันที่ 10 ม.ค.64 เวลา 23.00 น. ร.ต.อ. ประกอบ สุวรรณสุโข รอง สว.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร ได้รับรายงานว่ามีผู้นอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ 1 ราย และนอนหมดสติภายในบ้านพัก อีก 1 ราย ในซอยจันทน์ 31 จึงจัดกำลังพลไปตรวจสอบและประสานแพทย์นิติเวช รพ.จุฬา และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ไปที่เกิดเหตุทันที จุดเกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกติดกัน 7 คูหา บ้านเกิดเหตุเลขที่ 179 ซอยจันทน์ 31 แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพมหานคร บนชั้นที่ 2 พบเป็นหญิง 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟา สวมใส่เสื้อกีฬาสีขาว กางเกงขาสั้นสีแดง ทราบชื่อ น.ส.สุทธิณี เมตตาจิตต์ อายุ 24 ปี และ บนพื้นข้างๆ โซฟา พบเป็นหญิง 1 ราย สวมใส่เสื้อกีฬาสีแดง กางเกงกีฬาสีแดง นอนหมดสติ หายใจรวยริน ชีพจรเต้นอ่อน อาสาจึงเร่งทำการ CPR และนำส่ง โรงพยาบาลเลิศสินเป็นการด่วน ทราบจากทางเจ้าของบ้านซึ่งไม่เปิดเผยตัวตน บอกว่า “ลูกชายตนพาเพื่อนกลุ่มนี้เข้ามาในบ้าน ตั้งแต่เช้าแล้ว ซึ่งตนก็ให้ออกจากบ้านไป แต่เพื่อนกลุ่มนี้ก็ไม่ยอมออกไป จนกระทั้ง มาเกิดเหตุนอนเสียชีวิตแบบนี้”
เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ้ง ชื่อ นาย ธงชัย เอนสนธิ์ อายุ 27 ปี และ น.ส. ศิวรัญ หมอนอรุณ อายุ 24 ปี บอกเล่าเหตุการณ์ที่มาถึงว่า “ตนมาถึงที่เกิดเหตุ พบมีผู้หมดสติเป็นหญิง 2 ราย รายนึงนอนแน่นิ่งอยู่บนโซฟาใส่เสื้อสีขาว จับชีพจรดูไม่มีชีพจรแล้ว ส่วนอีกรายนึงใส่เสื้อสีแดง นอนราบกับพื้น ห่างกันประมาณ 2 ก้าว จับชีพจรดูยังมีอยู่ แต่เต้นอ่อนมาก จึงทำการช่วยเหลือ ทำการปั๊มหัวใจ และเร่งนำส่งโรงพยาบาลเลิศสิน”
ทางญาติผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นรุ่นน้อง ไม่ประสงค์ออกนาม บอกเล่าว่า “ผู้ตายเป็นรุ่นพี่ตน มากับเพื่อนอีกประมาณ 3 คน คนชื่อโบ้พามาบ้านนี้ แล้วนั่งเล่นกันอยู่ จนผู้ตายมีอาการ อาเจียนน้ำลายฟูมปาก แต่พยายามเช็ดแล้วเอาน้ำอะไรไม่รู้กรอกปากแล้วให้นอนต่อ จนมีเลือดออกปาก ปากเขียวม่วง แต่ก็ไม่ได้พาไปส่งโรงพยาบาล แต่ก็ปลุกคนชื่อพลอยให้มาดูเพื่อน แต่ก็ไม่ได้แจ้งใคร ให้นอนต่อ จนกระทั่งคนชื่อน้ำ มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ถึงได้รู้ว่าพี่มายตายแล้ว ส่วนเพื่อนอีกคนชื่อพลอย ที่อาการสาหัสอยู่ ถามจากคนชื่อน้ำบอกว่า มานั่งกินเบียร์ตั้งแต่เช้าแล้ว แล้วก็เสพยากัน 3 อย่าง มีเป็นแป้ง ยาอี ยาเค ค่ะ”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เสพยาตัวเดียวกันกับเหตุเมื่อตอนบ่าย 3 หรือไม่ เพราะเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน แล้วมีผู้เสียชีวิตและอาการสาหัส เหมือนกัน ต้องรอตรวจสอบที่เกิดเหตุ สภาพแวดล้อม ก่อน ส่วนทางแพทย์นิติเวช ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิต ต้องส่งมอบให้กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.จุฬา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะให้ญาติมารับร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป…
