เมื่อเวลา15.00น.วันที่11 ก.พ. พ.ต.ท.ประทีป ตาวิน รอง ผกก.สส.บก9 พ.ต.ต.ธนภัทร เวศกาวี สว.สส.สน.ท่าข้าม พร้อมฝ่ายสืบสวน กก.สส.บกน.9 ได้นำหมายจับของศาลอาญาธนบุรี เลขที่ จ.72/2564 ข้อหา วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ เข้าจับกุมตัวนายวสันต์ หรือ หนุ่ม วิไลเจริญตระกูล อายุ41ปี ที่บริษัทเก็บอุปกรณ์ทำความเย็นแห่งหนึ่งในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง สมุทรสาคร ที่ตัวเองเป็นกรรมการผู้จัดการ พร้อมรถคันที่ขับไปก่อเหตุ ฮอนด้า แอ็คคอร์ด สีขาว ทะเบียน2กข 3905 กรุงเทพมหานคร นำตัวไปสอบสวนที่สน.ท่าข้าม โดยมีพล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผบก.น.9 พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้ามร่วมทำการสอบสวน
จากการสอบสวนได้ความว่า นายวสันต์ ติดหนี้การพนันออนไลน์จำนวนหลายแสนบาท โดยที่ผู้เป็นแม่ใช้หนี้ไปให้แล้วหลายแสนบาท แต่ยังคงค้างอีกกว่า6แสนบาท ทำให้เกิดความคิดชั่ววูบ โดยก่อนก่อเหตุ2อาทิตย์ได้มาเดินที่ห้างที่เกิดเหตุ แล้วเห็นร้านทองเยาวราชทวีสินน่าจะก่อเหตุได้ง่าย เมื่อวาน(10 ก.พ.)จึงตัดสินใจขับรถเก๋งมาจอดไว้ริมถนนพระราม2 แล้วดินเข้าไปในร้าน ยืนลังเลและเลือกทองนาน10นาที จึงก่อเหตุ หลังจากวิ่งไปขึ้นรถที่จอดห่างออกไป100เมตร แล้วได้ขับรถเอาสร้อยคอทองคำที่วิ่งราวมาได้ 2 บาท 2 เส้น ไปจำนำไว้ที่โรงรับจำนำย่านบางมด ได้เงินมา53,000บาท หลังจากได้เงินมาก็รีบเอาไปใช้หนี้รายวันที่ยืมมา เพราะนัดเจ้าหนี้ไว้17.00น. และฉีกตั๋วจำนำทิ้ง แล้วได้ขับรถไปหลบที่บริษัทที่จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว
ด้านพล.ต.ต.พงศ์อานันต์ กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าจำเป็นต้องใช้เงิน เมื่อถามว่าทำไมเอาทองไปแค่4บาท ผู้ต้องหาบอกว่า ต้องการใช้เงินแค่นี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้ฝ่ายสืบสวนไปติดตามสร้อยคอทองคำจากโรงรับจำนำ ซึ่งช่วงนี้หยุดเทศกาลตรุษจีน คาดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร คดีนี้ใช้เวลาในการจับกุมตัวแค่23ชั่วโมง ถือว่าทีมสืบสวนมีประสิทธิภาพมาก