คดีแรก เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 516 กิโลกรัม รถยนต์ 2 คัน อาวุธปืน 1 กระบอก โดยจับกุมได้บริเวณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
คดีที่สอง เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. ได้จับกุมผู้ต้องหา 4 คน พร้อมของกลางยาบ้า 2 แสนเม็ด โดยจับกุมได้บริเวณ การตรวจตำบลย่านมัทรี อำเภอพยุหคีรี จ. นครสวรรค์ ต่อเนื่อง รีสอร์ทในจ.พัทลุง
คดีสุดท้าย เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สกส.บช.ปส. จับกุมผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง ยาบ้า 4 ล้านเม็ด จับได้บริเวณปั๊มน้ำมัน ในตำบลทุ่งโฮ้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ต่อเนื่องลานจอดรถตลาดไท ปทุมธานี
พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีผลการสอบสวนผู้ต้องหาขบวนการลักลอบขนไอซ์กว่า 500 กิโลกรัม ว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาในเครือข่ายนี้ รวมถึง ผู้บงการ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ และส่งไปต่างประเทศก่อนถูกจับกุมได้ในต่างประเทศ ทั้ง ฮ่องกง ออสเตรเลีย และนิวซีแลน ขอให้สื่อมวลชนอดใจรอจะมีข่าวดีในเร็วๆนี้ เพราะตำรวจได้ข้อมูลบางส่วนแล้ว เมื่อสื่อมวลชนถามว่าจะต้องรออีกนานแค่ไหน รองผู้บัญชาการตำรวจ ยืนยันว่าไม่นานเกินรอแน่นอน
ด้านพล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส.ระบุว่า กรณีที่ ยูเอ็นให้ข้อมูลว่า ไอซ์ มีการระบาดอย่างหนักในช่วงโควิด-19 โดยพบว่าต้นทางมาจาก 5 ประเทศในเอเชียและมีไทยรวมอยู่ด้วย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ยืนยันว่าที่ผ่านมา ปส.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามสกัดกั้นปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิด รวมถึงอายัดทรัพย์สินของขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 ถึงแม้จะมีการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนอยู่ในภาวะหวาดกลัวการติดเชื้อ แต่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสืบสวนจนจับกุมขบวนการค้ายาข้ามชาติได้มากกว่า 200 คดี แต่ยอมรับว่ามีบางส่วนที่เล็ดลอดออกไปซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อยมากหากเทียบกับการจับกุมพร้อมยืนยัน ขณะนี้ตำรวจทราบข้อมูลเกี่ยวกับคนสั่งการค้ายาข้ามชาติ ซึ่งพบมีความเชื่อมโยงถึงกันหลายเครือข่าย โดยมีหลักฐานชี้ชัด คือ เส้นทางการเงิน // หน่วยงานด้านความมั่นคง//ปส.//และ ป.ป.ส.เตรียมดำเนินการในเร็วๆนี้
