3 กค.2564 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สาธิต สมานภาพ, พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1.บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1.บก.ป.,
ร่วมกันจับกุม นายปุณยนุช (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้หาตามหมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ 233/2555 ลงวันที่ 3 กรกรฎาคม 2555 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง”
สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณเดือนมิถุนายน 2555 น.ส.ปุณยนุช หรือ กิ๊บ (ผู้ต้องหา) ซึ่งขณะก่อเหตุอายุ 24 ปี ได้ประกาศในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ว่าตนเองสามารถนำเข้ากระเป๋า แบรนด์เนมหรูชื่อดังมาในประเทศได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยอ้างว่าสามารถฝากซื้อ หรือรับหิ้ว กับพนักงานต้อนรับจากสายการบินหนึ่ง ซึ่งทางผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงสั่งซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมกับผู้ต้องหา โดยในช่วงแรกผู้ต้องหาสามารถส่งมอบสินค้าตามที่ได้ตกลง แต่ภายหลังเริ่มมีการส่งมอบสินค้าล่าช้า จนกระทั่งไม่สามารถส่งมอบสินค้าดังกล่าวได้ ซึ่งทำให้ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท ผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าเเจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ต่อพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุมาแล้วจำนวนหลายครั้ง มีมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 10 ล้านบาท และมีผู้เสียหายอีกเป็นจำนวนมากโพสต์เตือนภัยในเว็บไซต์ชื่อดังต่างๆ
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานเป็นเซลล์ขายรถยนต์มือสอง ที่เต็นท์ขายรถบริเวณ ถ.กาญจนาภิเษก แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณเต็นท์ขายรถมือสองดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า ในช่วงปีที่ออกหมายจับนั้น ตนได้มีการโพสต์ประกาศขายกระเป๋าแบรนด์เนมจริง โดยกระเป๋าแบรนด์เนมนั้นจะถูกขนส่งมาจากต่างประเทศ ผ่านพนักงานต้อนรับจากสายการบินหนึ่ง ซึ่งต่อมาภายหลังพนักงานต้อนรับจากสายการบินคนดังกล่าวไม่มีการจัดส่งกระเป๋าตามที่ตกลงกันไว้ ตนจึงไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับผู้เสียหายได้ตามวันเวลาที่กำหนด ซึ่งตนได้พยายามชำระค่าสินค้าไปแล้วบางส่วน ซึ่งยังมีบางส่วนที่ตนไม่สามารถคืนเงินให้ได้
นอกจากหมายจับดังกล่าว ผู้ต้องหายังมีหมายจับที่ต้องการตัวอีกจำนวน 2 หมาย ซึ่งเป็นการฉ้อโกงในลักษณะแบบเดียวกัน คือ
1.หมายจับ ศาลแขวงสมุทรปราการ ที่ 310/2555 ลงวันที่ 11 ก.ย.55 ข้อหา “ฉ้อโกง”
2.หมายจับ ศาลแขวงธนบุรี ที่ 2/2556 ลงวันที่ 4 ม.ค.56 ข้อหา “ฉ้อโกง”