เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษก บชน. เปิดเผยว่า ได้มีการประเชิญชวนในพื้นที่กทม. โดยกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิ้น และนายอานนท์ นำภา แกนนำเชิญชวนชุมนุมหน้าหอศิลป์ และเคลื่อนตัวลงมาบริเวณแยกปทุมวันเวลา 16.00 น. ทางบช.น. ขอฝากเตือนการจัดกิจจกรรมมั่วสุมเสี่ยงแพร่ระบาดรวมตัวเกิน 5 คนเป็นความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.บ.จราจรฯ
ส่วนการดำเนินการกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มคาร์ม็อบ 31 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีการชุมนุมรวมตัวเกิดความเดือดร้อน และต่อมาวันที่ 1 ส.ค.มีการรวมตัวถนนวิภาวดีรังสิต ปิดหน้าทางเข้าพล.1 รอ.จับกุมผู้กระทำความผิด 11 ราย และรับการร้องทุกข์ดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมที่เหลือเพิ่มเติม ส่วนเมื่อวันที่ 2 ส.ค. กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้าโดยจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ดาวดิน นำกลุ่มผู้ชุมนุมปิดทางเข้าออกบช.ปส. และรพ.สนาม โดยอ้างว่าเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวส่งศาลอาญาก็ได้มีการให้ประกันตัวแล้ว แต่กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุก กดดัน ผลักเจ้าหน้าที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.ได้สั่งการให้มีการระงับยับยั้งไม่ให้เกิดเหตุลุกลาม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายจับกุมผู้ต้องหา 32 ราย ส่วพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งสองห้องดำเนินคดีแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้มีการคดีกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมด 284 คดี สอบสวนเสร็จ 194 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 90 คดี หากมีการกระทำผิดใดๆ ผู้กระทำผิดต้องถูกจับกุมทุกราย
ส่วนการชุมนุบช.ปส. นั้นมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนแรกกลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า กดดันเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับ 3 คนทั้งที่ได้รับการประกันตัวแล้ว นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมก่อเหตุความวุ่นวายหน้าสโมสรตำรวจมีการขว้างปาสิ่งของทำลายทรัพย์สินของสโมสรตำรวจ ซึ่งจะต้องรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงในพื้นที่บก.ตชด.ภาค 1 ด้วย
ส่วนกรณีจดหมายเปิดผนึกการตำรวจรายนี้อายุเกินกว่า 50 ปีมาปฏิบัติหน้าที่ ทำงานเกิน 8 ชั่วโมงนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ภารกิจตำรวจค่อนข้างมาก แต่เรามาเป็นตำรวจต้องเสียสละทุกคนเหนื่อย แต่ยืนยันว่าต้องสู้ดำเนินการในการปฏิบัติหน้าที่
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นจัดกำลังตามสัดส่วนคัดเลือกผู้มีคงามรู้ประสบการมาปฏิบัติหน้าที่แต่บางจุดต้องนำกำลังมาเสริมเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจมีเหนื่อยบ้างท้อบ้าง ไม่อยากให้ออกมาเหนื่อย เพื่อรักษาความสงบหน้าที่ หลักการคือใช้คนหนุ่มมีความพร้อมอายุเป็นเกณฑ์ หากต้องมีการสับเปลี่ยนกำลังต้องพิจารณาเป็นกรณีไป
ส่วนกรณีพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดการชุมนุมวันที่ 1 ส.ค.นั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีที่มีการบันทึกภาพว่าเป็นวัตถุคล้ายระเบิดให้อีโอดีตรวจสอบถ้าเข้าข่ายผิดทางกฎหมายเป็นยุทธภัณฑ์ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่สอบสวนตามพยานหลักฐานให้โดยเร็วที่สุด ส่วนตรงกับเหตุการณ์ใดบ้าง มีคล้ายกับหลายคดี แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบ ทั้งนี้ ผบ.ตร.สั่งการให้ผบช.น. เตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่มีตำรวจบาดเจ็บ 13 นาย ส่วนรายงานข่าวควบคุมตัวแกนนำในวันนี้นั้น กรณีดังกล่าวเป็นหน้าที่ที่ต้องดำเนินคดีไม่เร็วก็ช้าก็ถูกจับกุม
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. ดูแลการจราจร กล่าวว่า การชุมนุมแยกปทุมวันนั้น อยู่บริเวณย่ายฝจกลางเมือง สถานที่ราชการโรงพยาบาล ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณดังกล่าว 14.00 น. ถนนพระราม 1 ตั้งแต่แยกเฉลิมเผ่า-แยกเจริญผล ถ.พญาไท ตั้งแต่แยกราชเทวี-จุฬาฯซอย 12 สำหรับเส้นทางหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางถ.เพชรบุรี ถ.เพลินจิต ถ.สุขุมวิท ถ.พระราม 4 ถ.เจริญผล ถ.บรรทัดทอง อย่างไรก็ตามหรณีออกมาแล้วสอบถามสภาพการจราจรได้เบอร์ 1197 เว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก บก.จร.ได้ต่อไป
