วันที่ 15 สิงหาคม 2564
กลุ่มผู้เสียหายที่ขายโทรศัพท์มือถือ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางกอกน้อย ให้ดำเนินคดีกับนายวัฒนชัย จิตรีเหิม หลังถูกต้องหารายดังกล่าว ปลอมสลิปโอนเงิน มาหลอกซื้อโทรศัพท์มือถือจากผู้เสียหาย เบื้องต้นมีผู้เสียหายทั้งหมด 8 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท
นางสาวพรวิมล นาสาธร หนึ่งในผู้เสียหายเล่าว่า ตนเองได้โพสต์เฟซบุ๊กประกาศขายโทรศัพท์มือถือ จากนั้นผู้ต้องหาก็จะติดต่อมา ทำทีสนใจจะขอซื้อ โดยการนัดรับสินค้ากัน แต่เมื่อมาถึงเวลานัดผู้ต้องหาก็จะส่งสลิปปลอมที่มีการตัดต่อตัวเลขและบัญชี พร้อมกับอ้างกับผู้เสียหายว่าเป็นการโอนเงินผ่าน G-wallet ซึ่งเงินจะเข้าบัญชีช้ากว่าการโอนเงินผ่านธนาคารปกติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือบางรายอ้างว่าไม่เกิน 2 วัน เงินถึงจะเข้า ประกอบกับผู้ต้องหายินยอมให้ถ่ายบัตรประชาชน สร้างความน่าเชื่อถือ ผู้เสียหายจึงไม่ได้เอะใจและส่งมอบโทรศัพท์มือถือให้ แต่เวลาผ่านไปเงินก็ไม่โอนเข้ามา เมื่อติดต่อไปทางผู้ต้องหา ก็ไม่สามารถติดต่อได้ มีการปิดโทรศัพท์มือถือ และบล็อกเฟซบุ๊กหนีไป ก่อนจะไปเปิดเฟซบุ๊กใหม่ เพื่อหลอกเหยื่อรายอื่นๆ ไปเรื่อยๆ จากการตรวจสอบพบว่ามีเฟซบุ๊กปลอมของผู้ต้องหาไม่ต่ำกว่า 30 บัญชี เบอร์โทรศัพท์อีกกว่า 20 เบอร์ และมีผู้เสียหายถูกหลอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน หลอกซื้อทั้งโทรศัพท์มือถือ รถจักรยานยนต์ หรือแม้แต่แอร์ และก่อนหน้านี้ที่สน.บางกอกน้อย ก็เคยมีผู้เสียหายอีกรายมาแจ้งความผู้ต้องหาในคดีลักษณะเดียวกัน และตำรวจออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมมาพบ และก็ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้
นอกจากนี้ยังทราบว่าผู้เสียหายบางราย ถูกผู้ต้องหาข่มขู่ ว่าหากไปแจ้งความ ผู้ต้องหาจากไปซื้ออาวุธปืนมาทำร้าย ทำให้ผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความอีกด้วย
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องไว้ และอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหายและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป