นายแพทย์ธีรชัย ฉันทโรจน์ศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ นำหลักฐานที่ถูกคนร้ายแฮ็กข้อมูลในระบบของทางโรงพยาบาลเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท หลังพบว่าได้รับความเสียหายคล้ายกับกรณีที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลสระบุรี
นายแพทย์ธีรชัย บอกว่า คนร้ายได้ล็อกระบบไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปใช้งานได้ พร้อมกับส่งข้อความเรียกค่าไถ่เป็นเงินสกุลดิจิทัล ซึ่งข้อมูลที่ได้ไปพบว่าเป็นข้อมูลผู้ป่วยสูงอายุประมาณ 4 หมื่นคน หลังเกิดเหตุก็มีชาวต่างชาติโทรศัพท์มาเจรจาต่อรองให้จ่ายเงิน และขอนัดเจรจากับผู้มีอำนาจของทางโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้โทรมา ทั้งนี้คาดว่าคนร้ายน่าจะฉวยโอกาสขณะที่โรงพยาบาลกำลังติดตั้งโปรแกรมใหม่สำหรับให้บริการผู้ป่วยเข้าไปขโมยข้อมูล ซึ่งเรื่องนี้ตรวจสอบแล้วคาดว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทที่เข้าไปดำเนินการติดตั้ง และยืนยันว่าทางโรงพยาบาลมีแบ็กอัพข้อมูลคนไข้อยู่แล้ว ส่วนข้อมูลที่ได้ไปก็อาจถูกนำไปใช้ในกลุ่มมิจฉาชีพ จึงมาขอให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบจับกุมผู้กระทำผิด เบื้องต้นขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้่เสียหาย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า ในรอบปีนี้นอกจากโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ และโรงพยาบาลสถาบันโรคไตฯ แล้ว ยังมีข้อมูลว่าก่อนหน้านี้โรงพยาบาลรามาธิบดี ก็ถูกแฮ็กระบบข้อมูลด้วยเหมือนกัน และได้ส่งตัวแทนเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ สน.พญาไท ไปแล้ว
ขณะที่พลตำรวจโทกรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ เปิดเผยว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบข้อมูลทางเทคนิคของโรงพยาบาลสถาบันโรคไตฯ แล้วว่า จะเป็นรูปแบบเดียวกันกับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์หรือไม่ ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ พบข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่องทางที่กลุ่มแฮ็กเกอร์เข้าไปเจาะระบบและขโมยข้อมูลออกไปได้ น่าจะใช้วิธีเจาะขโมยข้อมูลผ่านโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันฟรี ที่ทางโรงพยาบาลโหลดไปติดตั้งใช้งาน ก่อนจะค่อยๆ นำข้อมูลสำคัญไปได้สำเร็จ