Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

โฆษก บชน.เผยเสียงระเบิด2ครั้งหน้าศูนย์สิริกิตติ์ เป็นของกลุ่มผู้ชุมนุมพกมาเอง ด้านความเสียหายรถพฐ.ถูกทุบ-ตู้จราจร10ตู้-กล้องวงจรปิดโดนทำลาย

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. โฆษกบช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20 ก.ย. 2564 จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบนัดหมายเวลา ที่สามเหลี่ยมดินแดง อาจจะมีการก่อเหตุความวุ่นวาย บช.น. ขอเตือนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้วพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการรวมตัวของ 2 กลุ่มหลัก คือกลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จัดกิจกรรม CarMob เวลา 14.00 น. เริ่มรวมที่บริเวณแยกอโศก จากนั้นเวลา 16.00 น. เคลื่อนขบวนออกจากแยกอโศก เวลา 17.00 น. ขบวนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการตั้งเวทีปราศรัย และนำผ้าสีดำมาคลุม และผูกป้ายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาเวลา 18.05 ประกาศยุติกิจกรรมชุมนุม แต่ในระหว่างนั้น เวลา 15.15 น. ได้มีเสียงระเบิดเกิดขึ้น 2 ครั้ง ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามประตูศูนย์สิริกิติ์ฯ ถ.รัชดาภิเษก เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย หกล้มจากระเบิดแสวงเครื่องที่กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวพกมาเอง แบะทำให้ผู้อื่นที่มาด้วยรับบาดเจ็บ จากการตรวจพบเศษระเบิดในกางเกงของคนเจ็บ เบื้องต้นนำส่งรักษาตัวที่ รพ.เทพธารินทร์ และต่อมาได้ส่งตัวไปที่ รพ.ตำรวจหากมีการนำวัตถุระดบิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มต่อมาคือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ และกลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายเวลา 17.30 น. ที่สามเหลี่ยมดินแดง เนื่องจากมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแยกดินแดง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. กลุ่มจึงถอยมารวมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และต่อมา เวลา 19.00 น. บางส่วนได้ชักชวนกันไปรวมตัวที่ แยกนางเลิ้ง ได้มีการรวมตัวก่อความวุ่นวาย ขว้างปาประทัด พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่บริเวณเชิงสะพานชมัยฯ เป็นระยะๆ  จากนั้นมีการจุดไฟเผาป้อมการจราจรแยกนางเลิ้ง และทุบทำลายป้อมจราจรแยกยมราชเสียหาย ต่อมา เวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล  ได้ประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการกระทำเนื่องจากเป็นความผิด และให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มไม่ยอมเชื่อฟังยังคงก่อความวุ่นวายเป็นระยะๆ มีการจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์บนสะพานลอย และเอกสารในรถยนต์ของกองพิสูจน์หลักฐาน บริเวณแยกนางเลิ้ง เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินสาธารณะประโยชน์ทั้งของทางราชการและเอกชน ได้รับความเสียหายจำนวนหลายส่วน “เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เวลา 19.45 ถึง 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ ได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดดังกล่าวจำนวน 16 ราย เป็นเยาวชน 4 ราย พร้อมยึดของกลาง เป็นวัสดุทำด้วยท่อลักษณะคล้ายอาวุธปืน ,หนังสติ๊ก,ประทัดลูกบอล,ลูกแก้ว และอื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ(ป.อาญา ม.215), เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ(ม.216), ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ (ม.138), ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ (ม.217) และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ,ออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม (21.00 – 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น) และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้องเป็นรายๆไป ซึ่งกรณีอาวุธปืนของกลางดังกล่าว” รองผบช.น. กล่าวพล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า หากผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 219 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 797 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 552 คนโดยทาง บช.น. จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกันส่วนความเสียหายเมื่อวานนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นเอกสารทางราชการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การทำให้เกิดคงามเสียหายอาจจะให้มีผลกระทบกับคดีที่สำคัญ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากรถพฐ. ถูกทุบทำลาย ตู้ควบคุมจราจรแยกยมราชถูกทำให้เกิดความเสียหาย และยังมีความเสียหายตู้จราจร 10 แห่ง กล้องวงจรปิดหลายจุด อุโมงค์ระบายน้ำดินแดง ตู้เก็บเงินทางด่วนถูกทุบทำลายทรถได้รับความเสียหาย 50 คัน ส่วนเหตุการทำร้ายตำรวจหน้าร้านศรแดง ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องขออนุญาตตรวจสอบ ส่วนมาตรการหลังจากนี้กลุ่มทะลุแก๊สขยายพื้นที่มาแยกนางเลิ้งนั้น บช.น.เตรียมกำลังจากสถานีตำรวจต่างๆ พื้นที่วงในโดยพื้นที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงปรับการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขค้นทุกวัน ส่วนจะมีการพัฒนารูปแบบให้ยากขึ้นในการก่อเหตุความวุ่นวายนั้น เป็นไปได้เนื่องจากมีผู้สนับสนุนอยู่ต้องหามาตรการมาจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังดังกล่าว ส่วนเป็นกลุ่มการเมืองอยู่เบื้เงหลังหรือไม่ ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ////

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น./โฆษก บช.น.
Total
0
Shares
Previous Article

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ตรวจเยี่ยมSMART SAFTY ZONE 4.0 “ราชประสงค์ เซฟตี้โซน” เน้นป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก ชี้ ติดกล้องCCTV 390 ตัว ครอบคลุมทั่วเขตรับผิด สน.ลุมพินี

Next Article

ตำรวจไซเบอร์ เอาจริง ตามรวบน้องไข่เน่า กับแฟนหนุ่ม หลังหลบมาเช่าห้องอยู่ในโรงแรมย่านอ.บางพลี

Related Posts

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7เข้านมัสการพระครูวิบูลเจติยานุรักษ์, ดร.
เจ้าอาวาสวัดดอนเจดีย์เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี