191ร่วมสืบนครบาล จับสาวแก๊งขนยาเสพติดลำเลียงจากประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมยึดของกลางมูลค่า 157,900,000 บาท ผู้ต้องหารับสารภาพเตรียมกระจายส่งพื้นที่ภาคกลาง
วันที่12ตค.64 เวลา11.00น.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. , พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล , พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.สปพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวจับกุม น.ส.อังควิภา การบรรจง อายุ 20 ปี ได้ที่บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว หมู่ที่ 1 ตำยลนิยมชัย อำเภอสระโบสถ์ จังหวัดลพบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้า 962,000 เม็ด, ยาอี 195,950 เม็ด, เฮโรอีน 104 แท่ง น้ำหนัก 38 กิโลกรัม, ยาไอซ์ หนักประมาณ 3 กิโลกรัม , รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ถช 8400 กรุงเทพมหานคร และ รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน กว 6816 พระนครศรีอยุธยา รวมมูลค่าประมาณ 157,900,000 บาท
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 , บก.สส. , บช.น. ชุดจับกุมได้ร่วมกันบูรณาการร่วมกันสืบสวนหาข่าวผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด จากการขยายผลจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางซึ่งได้จับกุมไปก่อนหน้านี้แล้วประกอบกับได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ากลุ่มเครือข่ายขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดนั้นพักอาศัยอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ และจะลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะไปรับยาเสพติดตามแนวตะเข็บชายแดน จ.มุกดาหาร เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้าที่อยู่ภาคกลาง ซึ่งกลุ่มเครือข่ายนี้จะใช้รถยนต์กระบะทึบบรรทุกยาเสพติดในการบรรทุกยาเสพติด และมีรถยนต์กระบะเป็นรถนำทางเพื่อตรวจสอบเส้นทางในการเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้รอดพ้นจากการตรวจค้นจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมา วันที่ 9 ต.ค. 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้จะออกจากที่พัก จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไปรับยาเสพติดตามตระเขบชายแดนทาง จ.มุกดาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบูรณาการร่วมกันติดตามสังเกตการณ์เป้าหมาย จนกระทั้งทราบว่ากลุ่มเครือข่ายนี้ได้ไปรับรถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ถช 8400 กรุงเทพมหานคร ซึ่งภายในได้บรรทุกยาเสพติด และจอดอยู่บริเวณหน้าวัดสองคอน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร โดยมีรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน กว 6816 พระนครศรีอยุธยา ขับนำทางเพื่อตรวจสอบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อรับยาเสพติดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้ลำเลียงยาเสพติดมาจนถึงบริเวณ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งรถเป้าหมายทั้ง 2 คัน ได้ไหวตัวทัน และพยายามขับหลบหนี
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามรถทั้ง 2 คัน และพบรถยนต์กระบะตู้ทึบจอดทิ้งไว้บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหน้าวัดซับตะกั่ว หมู่ที่ 1 ต.นิยมชัย อ.สระโบสถ์ จ.ลพบุรี ส่วนผู้ต้องหานั้น ได้อาศัยความมืดหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ เมื่อตรวจสอบภายในรถพบยาเสพติดของกลางทั้งหมดอยู่ในรถดังกล่าว และได้ติดตามรถกระบะที่ทำหน้าที่นำทางไปจนถึงบริเวณถนนภายในไร่อ้อย หมู่ที่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ พบผู้ต้องหาเดินออกมาจากไร่อ้อย บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 72 หมู่ที่ 5 ต.น้ำหยด อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับค่าจ้าง ครั้ง ละ 20,000 บาท ต่อเที่ยว และจะนำยาไปส่งที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนจะนำส่งไปในจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งตนมีหน้าที่นั่งรถนำเฝ้าระวังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้คนขับส่งตนเพื่อหลบหนี แต่ถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนคนขับรถหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลางทั้งหมดพร้อมส่งตัวผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพิ่อทำการขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป