เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ ผกก.สสน.บก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิลาลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.ภัทราวุธ อ่อนช่วย รอง ผกก.สสน.บก.ป. แถลงผลร่วมกันจับกุมนายสหชัย อายุ 53 ปี หรือเสี่ยโจ้ ปัตตานี เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.60/2564 ลงวันที่ 23 ก.พ. 2564 ข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน”
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช กล่าวว่า สืบเนื่องจากปี 2555 ชุดปราบน้ำมันเถื่อนฯ ตร. ได้จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมัน ขณะลักลอบขายน้ำมันเถื่อน ที่บริเวณน่านน้ำ จ.สงลา ยึดของกลางน้ำมันเถื่อน 2 พันลิตร และเงินสด 48 ล้านบาท โดย ตร. ได้สืบสวนขยายผลไปจับกุมเสี่ยโจ้ นำตัวไปตรวจค้นที่พักพบเอกสารซื้อขายน้ำมันเถื่อน 400-500 ล้านลิตร ที่มีการจำหน่ายไปกว่า 1 หมื่นครั้ง โดยพนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องไป และส่งไปที่อัยการสูงสุด ขณะนี้คดียังไม่เสร็จสิ้นอัยการอยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มเติม ต่อมาปี 2558 พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เห็นว่าการค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน จึงมีการออกหมายจับเมื่อปี 2564 จนนำไปสู่การจับกุมเสี่ยโจ้ได้ย่านห้วยขวาง เมื่อคืนที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับเสี่ยโจ้มีอีกคดีหนึ่งที่เชื่อว่ากระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น คือข้อหาทำขึ้น ปลอมขึ้น ซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นตรวจลงตรา อันใช้ในการตรวจลงตรา สำหรับเดินทางระหว่างประเทศ พฤติการณ์แห่งคดี ตั้งแต่ 17 มิถุนายน 2557 ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า บุกตรวจค้น หจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ของนายสหชัย และได้คุมตัวนายสหชัยไปสอบสวนในคดีความมั่นคง เนื่องจากต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของภาคใต้ พบหลักฐานแผ่นตรวจลงตราเข้าเมืองปลอมจำนวนมาก คาดว่าเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายไม้ คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ส่วนศาลฎีกายกคำร้องจำเลย แต่เสี่ยโจ้ยังไม่เคยติดคุกตามคำพิพากษา
พล.ต.ท.จิรภพ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนติดตามเสี่ยโจ้มาโดยตลอด เนื่องจากถือว่าเป็นขาใหญ่ในวงการ พบประวัติมีการเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้งจึงหาตัวยาก จากการตรวจสอบในตัวเสี่ยโจ้ พบใช้หนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นหนังสือเดินทางจริงหรือไม่ จากนี้จะนำตัวส่ง ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามตนได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาไปดำเนินคดีกับผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทั้งคดีเก่าและใหม่ จะมีการขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สิน คดีฟอกเงิน ดำเนินการอย่างละเอียดทั้งหมด ส่วนเสี่ยโจ้จะมีส่วนเกี่ยวกับกับขบวนการน้ำมันเถื่อนที่เจ้าหน้าที่ บก.รน. จับได้เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมาหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเชื่อมโยงให้แน่ชัด