เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ที่ กองบังคับการปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.อภิชน ขันกา สว.กก.4 บก.ป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.2 จับกุม น.ส.ชนกนันท์ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดบุรีรัมย์ที่ 252/2564 ลงวันที่ 6 พ.ย.64 ข้อหา “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน” ได้บริเวณหน้าโรงแรมในเมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ทั้งนี้เมื่อประมาณต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ชนกนันท์ ได้ใช้ชื่อ น.ส.นัดดานำรูปของหญิงสาวคนอื่นมาเป็นโปรไฟล์ จากนั้นได้แชทพูดคุยตีสนิทกับ นายเอ (นามสมมติ) ก่อนขอยืมเงินโดยอ้างว่ามารดาเดือดร้อนต้องการใช้เงิน นายเอ จึงได้โอนเงินให้จำนวนหลายครั้ง รวมเป็นเงินประมาณ 210,700 บาท ต่อมาผู้ต้องหาได้ทำทีพูดคุยตกลงหมั้นหมายกัน นายเอ จึงยกหนี้จำนวนดังกล่าวให้ไป โดยให้ถือว่าเป็นค่าสินสอดทองหมั้น
ต่อมา นายเอ ตรวจสอบพบว่าเงินในบัญชีของตนได้ถูกโอนไปยังบัญชีอื่น จำนวน 10 ครั้ง รวมเป็นเงิน 2.5 ล้านบาท จึงได้แจ้งความพนักงานสอบสวน
สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ให้ติดตามหาตัวคนร้าย แต่ระหว่างนั้นผู้ต้องหาติดต่อมายอมรับว่าเป็นคนแอบโอนเงินจำนวนดังกล่าวเอง เพื่อซื้อที่ดินกับต้นไม้ พร้อมขอร้องไม่ให้ผู้เสียหายดำเนินคดีกับตน โดยอ้างว่าต่อไปก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว และในส่วนของเงินที่เอาไปนั้นผู้ต้องหาจะรีบนำมาคืนให้โดยเร็ว ทำให้ผู้เสียหายใจอ่อนไม่ดำเนินคดี
จากนั้นผู้ต้องหาก็ได้ออกอุบายหลอกลวง นายเอ อีกครั้ง โดยอ้างว่าอยากเปิดโรงงานทำธุรกิจ จึงขอให้ผู้เสียหายช่วยเหลือด้านการเงิน นายเอ จึงได้ให้ผู้ต้องหาประกาศขายที่ดินจำนวน 9 ไร่ ในราคาไร่ละไม่ต่ำกว่า 1.7 ล้านบาท หากขายได้ก็จะแบ่งเงินช่วยเหลือในการทำธุรกิจดังกล่าว ต่อมาผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถขายที่ดินแปลงดังกล่าวได้แล้วในราคา 16.7 ล้านบาท และได้แจ้งนัดหมายให้ผู้เสียหายไปทำสัญญาโอนขายที่ดินให้กับผู้ซื้อรายหนึ่งที่สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ โดยในวันทำสัญญาโอนขายที่ดิน ผู้ต้องหาอ้างกับผู้เสียหายว่า ผู้ซื้อได้โอนเงินค่าซื้อขายที่ดินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายครบถ้วนแล้ว ผู้เสียหายจึงยอมลงชื่อในสัญญาโอนขายที่ดินดังกล่าว
ต่อมาภายหลัง นายเอ พบว่าผู้ต้องหามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จึงได้ตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารของตนเอง แต่กลับพบว่าไม่มีเงินค่าซื้อขายที่ดินโอนเข้ามาแต่อย่างใด จึงได้สอบถามไปยังผู้ซื้อที่ดิน จนทราบว่าผู้ต้องหาได้เสนอขายที่ดินให้ในราคาเพียง 7.5 ล้านบาท และในวันทำสัญญาโอนขายที่ดิน ผู้ซื้อก็ยืนยันว่าได้มอบเงินสดจำนวนดังกล่าวให้กับผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงเชื่อตนเองถูกหลอก จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี และทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับไว้กระทั่งเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำส่ง สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป