
วันนี้(วันเสาร์ที่ 13 พ.ย. 64) เวลาประมาณ 14.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7พร้อมด้วย พล.ต.ต. พิสิฐ ตันประเสริฐรอง ผบช.ภ.7พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรีพ.ต.อ.ธนเดช ตันติอาภา รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรีพ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่างรรท.ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรีได้ร่วมกันแถลงการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสุพรรณบุรีข้อหาความผิดฐาน”ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครอง และร่วมกันพาอาวุธปืนไปในทางหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”โดยจับกุมเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ดังนี้
1.นายเอ(นามสมมุติ อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 5/2564 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 (ผู้ต้องหาที่ 1)2.นายปวีณกร หรือบาส โพธิ์สุข อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 170/2564 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564(ผู้ต้องหาที่2)จับกุมเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 2564 ดังนี้1 นายนวราช หรือจุ้ย แสงทินทอง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.172-174/2564 ลงวันที่4 พฤศจิกายน 2564 (ผู้ต้องหาที่3)และจับกุมเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 12 พ.ย. 2564 ดังนี้1.นายปี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 6/2564 ลงวันที่ 3 พฤศจิกายน 2564 (ผู้ต้องหาที่4)2.นายสุพัฒน์ หรือหวาย แตงวงษ์ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับที่ จ.172-174/2564 ลงวันที่4 พฤศจิกายน 2564 (ผู้ต้องหาที่5)พร้อมด้วยของกลางในคดี1. อาวุธปืนพกสั้นลูกโม่ ขนาด .38 หมายเลข สพ8/2177 จำนวน 1 กระบอก ตรวจยึดได้ที่เกิดเหตุ2. ปลอกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 4 ปลอก3. รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น Vios สีขาว หมายเลขทะเบียน กค 4540 อ่างทอง ตรวจยึดได้ที่เกิดเหตุ4. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA สีน้ำเงิน,ดำ,เทา หมายเลขทะเบียน 1กฒ 1607 สุพรรณบุรี ตรวจยึดได้ที่เกิดเหตุ5. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น Fortuner สี ขาว หมายเลขทะเบียน กน 9927 สุพรรณบุรี ตรวจยึดได้จากนายนวราช แสงทินทอง (ผู้ต้องหา3)6. โทรศัพท์ยี่ห้อ ชัมซุง A12 สีน้ำเงิน เคสสีแดง หมายเลขอีมี่ 357026893654404,357412783654409ตรวจยึดได้ภายในรถก๋งโตโยต้า วีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 4540 อ่างทอง จากนายปวีณกร โพธิ์สุข
พฤติการณ์แห่งคดีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 23.40 น. รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันจนมีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนมาลัยแมน 321 ม.4 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตบริเวณที่เกิดเหตุ จำนวน 1 ราย คือ นายวัชรพงศ์ ธรรมณี อายุ 30 ปี และทราบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 2 ราย นำมารักษาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช เจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน จึงได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ปรากฏ พบ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากอาวุธปืน จำนวน 2 ราย ดังนี้1.นาย ปวีณกร หรือบาส โพธิ์สุข อายุ 24 ปี2.นายเอ(นามสมมุติ)อายุ 17 ปีจากการสืบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายปวีณกร หรือ บาส โพธิ์สุข ได้นัดแนะกับกลุ่มของนายเอ(นามสมมุติ เพื่อซื้อขายยาชาฉีดเข้าอวัยวะเพศ จึงได้นัดเจอกันบริเวณถนนวัดบางกุ้งเหนือ บ้านเขาดิน เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายปวีณกร หรือบาส โพธิ์สุข ได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง โตโยต้า วีออส สีขาว โดยมีนายวัชรพงศ์ หรืออ้อฟ ธรรมณี นั่งมาด้วย ปรากฏว่า เมื่อมาถึงจุดนัด ได้พบกับ นายเอ(นามสมมุติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า สีน้ำเงินมาจอดคอยอยู่แล้ว เมื่อนายปวีณกร หรือบาส โพธิ์สุข เปิดกระจกรถยนต์ลง นายเอ(นามสมมุติ) ได้ใช้มือไปบิดกุญแจเพื่อดับเครื่องยนต์ และหักกุญแจทิ้ง ต่อมาได้มีกลุ่มคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงมาที่รถยนต์ถูกแขนนายปวีณกร หรือบาส โพธิ์สุข แล้วนายวัชรพงศ์ หรืออฟ ธรรมณี ได้ใช้อาวุธปืนยิงสวนออกไป ถูกนายเอ(นามสมมุติ)ได้รับบาดเจ็บและทิ้งรถจักรยานยนต์หลบหนี นาย วัชรพงศ์ หรืออ้อฟ ธรรมณี จึงได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าว โดยมีนายปวีณกร หรือ บาส โพธิ์สุข นั่งซ้อนท้ายและถืออาวุธปืนของนายนายวัชรพงศ์ หรืออัอฟ ธรรมณี ออกไปโดยมุ่งหน้า ออกถนนมาลัยแมน 321 ปรากฎว่า มีรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ขับออกมาจากทางวัดบางกุ้งเหนือ ได้ขับไล่ เมื่อนายวัชรพงศ์ หรืออ้อฟ ธรรมณี ขับขี่รถจักรยานยนต์ เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 321 มุ่งหน้าสามเหลี่ยม เมื่อมาถึงบางกุ้งกลการ รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ คันดังกล่าว ได้ขับชนท้ายรถจักรยานยนต์ล้มลงติดใต้ท้องรถและขูดไปกับถนน นายวัชรพงศ์ หรืออฟ ธรรมณี เสียชีวิต ส่วนนายนายปวีณกร หรือ บาส โพธิ์สุข ได้ลุกขึ้นหยิบอาวุธปืนที่ตกอยู่บนถนน แล้วไปหลบในทุ่งนา ซึ่งรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ขับวนย้อนศรกลับมา แล้วหลบหนีไปต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และศาลได้อนุมัติหมายจับ และจับกุมผู้ต้องหาที่ 1และ2 ตามหมายจับส่ง พงส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินการตามกฎหมายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ทำการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และจากการสอบสวนพยานบุคคลทราบตัวบุคคลที่ขึ้นรถยนต์ โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ออกไปก่อนไปก่อเหตุ มีดังนี้1.นายนวราช หรือจุ้ย แสงทินทอง อายุ 25 ปี(เจ้าของรถยนต์ฟอร์จนเนอร์)2.นายสามารถ หรือต้น เผือกพันมุข อายุ 34 ปี3.นายสุพัฒน์ หรือหวาย แตงวงษ์ อายุ 19 ปี4.นายบี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปีต่อมาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2564 พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับจากศาลจังหวัดสุพรรณบุรี และศาลได้อนุมัติหมายจับบุคคลดังกล่าวทั้ง 4 รายทั้งในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้จับกุมผู้ต้องหาที่3 ตามหมายจับ นำส่งพงส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 ได้จับกุมผู้ต้องหาที่ 4 และ 5 ตามหมายจับ นำส่งพงส.สภ.เมืองสุพรรณบุรีดำเนินการตามกฎหมายส่วนผู้ต้องหาอีก 1 คน (นายสามารถ หรือต้น เผือกพันมุข) ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับแล้ว หลบหนีอยู่ระหว่างสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีจากการสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม-พบรถยนต์กระบะสีดำ ทะเบียน บษ 9224 สุพรรณบุรี นำตัวนายศักดา หรือมี่ วะรงค์ นำส่งโรงพยาบาลเจ้าพะยายมราช ทราบว่ามี1.นายปฐวี โชติเตชานนท์ (1720300175037) อายุ 21 ปี2.นายชี(นามสมมุติ) อายุ 17 ปีเป็นคนนำตัวนายเอ(นามสมมุติ)ส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในการปฏิบัติในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมบูรณาการกำลังตามหลักการ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ในเวลาต่อมา การปฏิบัติการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้จึงถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิทักษ์และรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง ในนามของตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้เสียหาย โดยทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ได้มอบเงินส่วนตัวให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และขอชมเชยพร้อมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไปณ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี