เมื่อเวลา13.30.น. วันที่ พลตำรวจโท สําราญ นวลมา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในนครบาล แถลงผลการจับกุม ยาเสพติด ทั้งเฮโรอีนยาอียาไอซ์และกัญชา ซึ่งเป็นการกวาดล้าง อาชญากรรมออนไลน์ที่เตรียมนำมาใช้ในช่วงเทศกาลลอยกระทง วันพรุ่งนี้
โดยคดีแรก เป็นผลงานการจับกุม ของตำรวจชุด กองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ขยายผลจากการจับกุมเฮโรอีนยาอีและยาไอซ์ ซึ่ง บรรจุในซองกาแฟยี่ห้อดังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน (ดาว) เมื่อ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา ชาย 2 หญิง 2 รวม 4 คน( ประกอบด้วย นายวุฒิพงษ์ วีระทอง อายุ 28 ปี ชาวจ.กำแพงเพชร นายศุภกรณ์ ตุ้มเทียบ อายุ 23 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร น.ส.ทิวพร บำรุงกลาง อายุ 23 ปี ชาว จ.ปทุมธานี น.ส.พิมพิศ ไชยศรีจันทร์ อายุ 19 ปี จ.ลพบุรี) พร้อมของกลางเป็น เฮโรอีน ประมาณ 16 แท่ง หนัก 6 กิโลกรัม /อาอี 100 ซองๆ หนัก 1.9 กิโลกรัม/ ยาอีแบบแคปซูล 300 แคปซูล/ ยาอี 11,000 เม็ด/ พร้อมรถยนต์อีก 2 คัน โดยจับกุมได้บริเวณถนนภายในหมู่บ้านบุณจริก ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา จากการสืบสวน พบว่า ขบวนการค้ายาเสพติด ย่านมีนบุรี เรียงลำเลียงยาเสพติดจากในหมู่บ้านบุณจริก ต.ลาดสวาย อ.ดำถูกกา จ.ปทุมธานี เข้ามาเตรียมจำหน่ายในช่วงเทศกาลลอยกระทง ให้กับกลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยทำเป็นขบวนการใหญ่ และใช้รถยนต์จำนวน 2 คัน ในการลำเลียงในครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือรถ ยี่ห้อชูชูกิ สวิฟสีแดง ตำรวจชุดสืบสวนจึงเฝ้าสังเกตการณ์และติดตามพฤติกรรมของรถที่เข้าออกหมู่บ้านอย่างใกล้ชิด นานกว่า 2 วัน จนพบความเคลื่อนไหว ช่วงค่ำที่ผ่านมา มีผู้ต้องสงสัยชายหญิงรวม 4 คน ขับรถออกมา จากบ้านพักหลังหนึ่งด้วยท่าทางมีพิรุธ ตำรวจจึงสะกดรอยตาม ก่อน สกัดจับพร้อมขอตรวจค้นและพบของกลางดังกล่าว สอบสวนผู้ต้องหา รับว่ายาเสพติดดังกล่าว เพิ่ง นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน(ลาว) โดยบางส่วน โดยบางส่วนนำไปเก็บตอนที่หมู่บ้านบุณฑริก ส่วนที่ ถูกจับเตรียมนำมาขายในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยได้รับค่าจ้าง 3-4 หมื่นบาท ต่อการค้น 1 ครั้ง โดยตลอดปีที่ผ่านมาทำมาแล้ว 6-7 ครั้งเ บื้องต้นแจ้งข้อหา ” ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เซโรอีนและยาอี )ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.เพื่อคำเนินคคึตามกฎหมายต่อไป
คดีที่ 2 เป็นผลงานการจับกุมของตำรวจชุด 191 ซึ่งสามารถจับกุม ขบวนการค้ากัญชา ออนไลน์ Facebook ยิ้มหวานสายสีเขียว จัดส่งทางไปรษณีย์ (นายฉัตรมงคล ทองรอด อายุ 21 ปี นายนนทชัย โบบทอง อายุ 25 ปี นายนันทวัตน์ กาวีวงศ์ อายุ 24 ปี) โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ ภายในร้านนินจาแวน ซึ่งเป็นร้านรับส่งไปรษณีย์ ของเอกชนรายหนึ่ง ภายใน ซอยพัฒนาการ 43 ย่สนสวนหลวง โดยการจับกุมทั้งสองคน เป็นการขยายผลมาจากเหตุการณ์ การจับกุมกัญชาจำนวนหนึ่ง ซึ่งประกาศขายกัญชาออนไลน์ผ่าน Facebook กัญชาลิ้งค์ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าทั้ง 2 คนเป็นตัวการใหญ่ มักนำสินค้าเป็นอันชา มาส่งไปรษณีย์ ที่ร้านดังกล่าวอยู่เสมอ ตำรวจ จึงติดตามพฤติกรรม และพบความ เคลื่อนไหวเมื่อผู้ต้องหาทั้งสองคน หิ้ว ถุงกระสอบ เข้ามาภายในร้าน จึงเข้าทำการตรวจค้น และพบของกลาง กัญญาอัดแท่ง บรรจุในกล่องพัสดุ จำนวน 24 กล่อง น้ำหนักรวม 2.842 กิโลกรัม โดยพันตำรวจเอก นิติธร จินตะกานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แปลว่า การจับกุมยาเสพติดทั้ง 2 พอดี เพื่อเป็นการกวาดล้าง คดีอาชญากรรมออนไลน์หรือคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แล้วเป็นการกวาดล้างยาเสพติด ช่วง ก่อนลอยกระทงหลังพบข้อมูล มีการเตรียมยาเสพติด มาจำหน่ายในพื้นที่ ให้กับ กลุ่มวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่ง หลังพบข้อมูลดังกล่าว ผู้บัญชาการ ตำรวจนครบาล ได้สั่งการ ให้ตำรวจท้องที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงแรม get out รวมถึงห้องพัก รายวัน ในพื้นที่นครบาล ในวันพรุ่งนี้ อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันปัญหาการจัดปาร์ตี้ ยาเสพติด หลังลอย กระทงเสร็จสิ้น และเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของ covid 19 พร้อมเตือนเจ้าของโรงแรม Guest House รวมถึงห้องเช่ารายวัน หากปล่อยปละละเลยให้มีคนเข้าไปใช้บริการ แล้วจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าว จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่มีละเว้น และถือเป็นผู้ให้การสนับสนุน
