จากกรณีที่เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง และตำรวจ สน.ลุมพินี เข้าตรวจสอบร้าน 789 บาร์ ซอยสุขุมวิท 7 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนาได้รับแจ้งว่ามีการค้าประเวณีหญิงสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ร้านดังกล่าว จึงลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวจนทราบแน่ชัดว่าร้านแห่งนี้มีพฤติการณ์ต้องสงสัย จึงวางแผนล่อซื้อบริการหญิงสาว 3 คน จนความผิดสำเร็จ จึงช่วยเหลือหญิงสาว อายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน ประกอบด้วยอายุ 15 ปี จำนวน 2 คน และ 14 ปี อีก 1 คน และได้ควบคุมตัวเจ้าของร้าน ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดี จากการตรวจสอบยังพบว่า ร้านดังกล่าวมีหญิงสาวที่ค้าประเวณีอายุน้อยที่สุด คือ 14 ปี
พลตำรวจโทสำราญนวลมาผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นของกองบัญชาการตำรวจนครบาลพบว่าเคยเข้าไปตรวจสอบและจับกุมในลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ และขอบคุณกรมการปกครองที่ประสานงานสน.ลุมพินี และเข้าไปร่วมจับกุมดังกล่าว ทราบว่าขณะนี้พลตำรวจตรี โสภณสารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีการจับกุมดังกล่าวขึ้นแล้ว และจะดำเนินการสั่งย้านส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในพื้นที่ไปช่วยราชการหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนข้อเท็จจริง เชื่อว่าทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จะสั่งการให้ช่วยราชการที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ก่อน ส่วนเรื่องดังกล่าวจะเป็นลักษณะการปล่อยปละละเลยหรือไม่ มองว่า ไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยเนื่องจากที่ผ่านมาตำรวจนครบาลในทุกพื้นที่มีการออกตรวจสอบและจับกุมเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ แต่ยอมรับว่ายังขาดความละเอียดและลงลึกในจุดที่มีปัญหา ซึ่งได้สั่งการให้ตำรวจทุกพื้นที่เพิ่มความละเอียดในการตรวจสอบพฤติการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และการเปิดสถานบันเทิงต่างๆมากขึ้น
ส่วนหลังจากนี้จะมีการสั่งปิดสถานประกอบการดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปีตามนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าพฤติการณ์การก่อเหตุเจ้าของร้านมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดหรือเป็นเหตุที่เกิดขึ้นภายในบริเวณร้านหรือไม่แต่หากพบว่าร้านดังกล่าวมีส่วนร่วมก็จะดำเนินการสั่งปิดเป็นเวลา 5 ปีตามที่ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เป็นคนเสนอมา ทั้งนี้ในระหว่างที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตอบคำถามนี้ค่อนข้างใช้น้ำเสียงที่ค่อนข้างจริงจัง และเคร่งเครียด
ทั้งนี้มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะถูกสั่งไปช่วยราชการในครั้งนี้คือพันตำรวจเอก นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการสนลุมพินี พันตำรวจโท ประจำ ฝนโตแจ้ง รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม พันตำรวจโท สุวรรณรัตน์ สารวัตรสืบสวนรักษาราชการแทนรองผู้กำกับการสืบสวน สน. ลุมพินี และพันตำรวจตรี สุธี ใยบัว สารวัตรป้องกันปราบปรามอีก 1 นาย รวมเป็น 4 นาย โดยจะให้มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 จนกว่าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ และให้รายงานเรื่องดังกล่าวมาให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลรับทราบภายใน 1-2 วันนี้
