ตร.สมุทรสาครตีเนียนเป็น พนง.เซเว่นล่อจับคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่4 เม.ย.65 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ยอดชาย แก้วเรือง ผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาครร่วมกันแถลงจับกุมตัว นายประพจน์ คชรัตน์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 27/63 หมู่ 4 ตำบลท่าจีน อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 78/2565 ลง 4 เมษายน 2565 ข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร จับกุมได้ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับเข้าเมืองสมุทรสาคร ถนนเศรษฐกิจ ม.7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX สีดำ ด้านหลังมีสติ๊กเกอร์ 811จำนวน 1 ใบเสื้อคลุมแขนยาว สีดำ จำนวน 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว สีน้ำเงิน จำนวน 1 ตัว ถุงมือผ้า สีเทา จำนวน 1 คู่ รองเท้าหนังเทียม ยี่ห้อ PUMA สีขาว แถบสีดำเลือดหมู จำนวน 1 คู่ กางเกงยีนส์ขายาว สีดำ ยี่ห้อ Mc (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 ตัว รองเท้าแตะแบบสวม สีน้ำเงินคาดเหลือง (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 คู่ แผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข 1 กฒ 4870สมุทรสาคร (พบอยู่ใต้เบาะ) จำนวน 1 แผ่น มีดปอกผลไม้ สแตนเลส ด้ามสีดำ ความยาวรวมด้าม 23 ซม. จำนวน 1 เล่ม พล.ต.ท.ธนานุตม์ กล่าว่า เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร วันที่ 1 เมษายน 2565 เวลา 03.17 นาฬิกา ได้มีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 1 คน สวมหมวกกันน๊อกสีดำแบบเต็มใบ ยี่ห้อ INDEX สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมถุงมือสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว แถบคาดน้ำเงินหรือสีดำ ยี่ห้อ PUMA ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาปากทางสวนส้ม ต.บางกระเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 10,000 บาท หลังก่อเหตุ คนร้ายได้ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีไป ต่อมาสภ.เมืองสมุทรสาคร ได้เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย วางแผนการตรวจป้องกันเหตุ โดยได้สำรวจข้อมูลร้านสะดวกซื้อ 7-11 ในพื้นที่ ซึ่งมีทั้งหมด 99 แห่ง แบ่งเป็นจุดเสี่ยงสูงจำนวน 20 แห่ง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบแต่งกายชุดพนักงานเชเว่นไปเฝ้าประจำ แห่งละ 2 นาย ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงเวลา 05.00 นาฬิกา ของวันรุ่งขึ้น วันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 02.40 นาฬิกา คนร้ายได้พยายามชิงทรัพย์ ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาเบญจทรัพย์ ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน เนื่องจากพนักงานวิ่งหลบหนีออกจากร้านไปได้ก่อน จากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ย้อนเส้นทางเดินรถมุ่งหน้าตัวเมืองสมุทรสาคร และวันที่ 2 เมษายน 2565 เวลา 02.46 น. คนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ 7-11 สาขาเอกชัย 15 (เดอะพราว) ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดประมาณ 7000 บาทหลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับขี่ รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง หลบหนีไป ต่อมาได้วิเคราะห์พฤติกรรมคนร้าย พร้อมทั้งวางแผนติดตามจับกุมคนร้ายและแผนการป้องกันเหตุ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน 7-11 ที่เกิดเหตุ และจากกล้องวงจรปิดของรถโมบาย CCTV UNIT ที่จอดป้องกันเหตุอยู่บนถนนเอกชัย บริเวณแยกหมู่บ้านเดอะพราว ตำบลมหาชัยฯ ทำให้เห็นตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและรถที่นำมาใช้ก่อเหตุได้ชัดเจนยิ่งขึ้น จึงทราบว่ารถที่คนร้ายนำมาใช้ก่อเหตุ เป็นรถจักรยานยนต์ ยี่ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง วงล้อสีทอง และจากการสังเกตพฤติกรรม พบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 3 แห่ง มีแผนประทุษกรรมคล้ายกันทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งคนร้ายได้มีการวางแผนเตรียมการเป็นอย่างดี กล่าวคือ แต่งกายมิดชิด สวมหมวกกันน๊อคแบบเต็มใบ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมถุงมือทั้งสองข้าง เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ จะจอดรถจักรยานยนต์ ในจุดที่ห่างหรือไม่มีกล้องวงจรปิด คอยสังเกตดูที่ร้าน 7-11 ที่จะก่อเหตุ หากไม่มีลูกค้าหรือช่วงที่ปลอดคน คนร้ายจะเข้าไปภายในร้านและกระโดดข้ามเค้าเตอร์เข้าไปหาพนักงาน ตะโกนคำว่า “นี่คือการปล้น” และใช้อาวุธมีดจี้บังคับพนักงานให้เปิดช่องเก็บเงิน แล้วส่งเงินให้คนร้าย โดยช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เป็นช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป จึงได้วางแผนการปฏิบัติเพื่อจับกุมคนร้าย โดยจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ แต่งชุดพนักงานเชเว่น หรือชุดนอกเครื่องแบบ ไปประจำร้านเซเว่นทุกสาขาในเขตพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 99 แห่งและให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ไม่ติดภารกิจอื่น แต่งกายชุดนอกเครื่องแบบออกตะเวนตรวจเต็มพื้นที่ เพื่อหารถจยย.และคนร้ายตามลักษณะดังกล่าว ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ถึง เวลา 05.00 น. รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วทั้งรถยนต์ และรถ จยย.คอยสนับสนุน ติดตาม หากพบผู้ต้องสงสัย หรือพบตัวผู้ก่อเหตุ กระทั่งต่อมา วันที่4 เม.ย.เวลา 02.40 น.เจ้าพนักงานตำรวจที่เฝ้าประจำร้าน 7-11 สาขาซอยบ้านปลายคลองครุ(ใกล้โรงแรมโนอาร์) สังเกตุพบชายต้องสงสัยแต่งกายลักษณะและใช้ยานพาหนะคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ดังกล่าว จึงได้แจ้งผู้บังคับบัญชาทราบ และแจ้งศูนย์วิทยุเพื่อสกัดติดตาม จนกระทั่งสามารถควบคุมตัวชายคนดังกล่าวได้ที่บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานต่างระดับเข้าเมืองสมุทรสาคร ถนนเศรษฐกิจ ม.7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และได้จับกุมนายประพจน์ คชรัตน์ ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ 78/2565 ลง 4 เมษายน 2565 ซึ่งนายประพจน์ฯ รับสารภาพว่า ได้เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ทั้ง 3 แห่งดังกล่าวข้างต้น จริง นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป