โดยจับกุมได้บริเวณห้องพักภายในเรือนแก้วรีสอร์ท หมู่ที่ 4 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจับกุม นายกําพล หรือต้อม กิติผงพร้อมของกลาง กัญชา รวม 15 กระสอบ น้ําหนักประมาณ 649 กิโลกรัม ภายในบ้านเลขที่ 60/2 หมู่ที่ 5 ต.บ่อตาโล่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการยาเสพติดดังกล่าวหลงเหลืออยู่ และในวันที่ 5 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. จะลักลอบขนยาเสพติดเข้ามา พื้นที่ตอนในของประเทศไทย ผ่านทางถนน สระบุรี-หล่มสัก โดยใช้รถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮจ 1776 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะในการขนยาเสพติด และใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีน้ําตาล หมายเลขทะเบียน กท 4939 ชัยภูมิ เป็นรถสํารวจเส้นทาง เจ้าหน้าที่จึงวางกําลังเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ เมื่อรถยนต์ของผู้ต้องหา ขับมาตามถนนสระบุรี- หล่มสัก และได้มาหยุดรถภายในเรือนแก้วรีสอร์ท หมู่ที่ 4 ต.หนองแจง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ พบว่า นายเสกสรร ผู้ขับรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮจ 1776 กรุงเทพมหานคร และนายเกรียงไกร ผู้นั่งข้างคนขับ ได้เข้าไปพักภายในห้องพักร่วมกัน และพบนายกําธร ผู้ขับขี่รถยนต์ กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต สีน้ําตาล หมายเลขทะเบียน กท 4939 ชัยภูมิ เข้าพักอีกห้องหนึ่ง
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เผยอีกว่า เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น และไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าภายในรถยนต์ ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว มีกัญชาอยู่ภายในห้องโดยสารจํานวนมาก จึงทำการตรวจค้นกระบะยี่ห้อเชฟโลเลต สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กท 4939 ชัยภูมิ โดยไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด แต่พบกัญชาอยู่ในกระสอบถุงปุ๋ย ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดํา พันทับด้วย พลาสติกใส จํานวน 25 กระสอบ (หนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม) อยู่ภายในห้องโดยสารรถยนต์ตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮจ 1776 กรุงเทพมหานคร จึงทําการจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติด ให้โทษประเภท 5 (กัญชา) เพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนําตัวส่ง บช.ปส. ดําเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พีระพงศ์ เผยอีกว่า กัญชาดังกล่าวเป็นกัญชาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หากเข้ามาในพิ้นที่กรุงเทพฯ แล้ว จะมีราคาขายปลีกประมาณกิโลกรัมละ 9,000-10,000 กว่าบาท โดยผู้ต้องหาได้เงินค่าจ้างในการลักลอบขนคนละ 20,000 บาท ส่วนนายกําธร ผู้ขับรถนำนั้นได้ค่าจ้าง 50,000 บาท หลังจากนี้จะทำการสืบสวนขยายผลถึงผู้เกี่ยวข้องต่อไป