เมื่อเวลา 16.00น.วันที่ 7 เม.ย.ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ นายภักดิ์พิสิฐ สายกระสุน อายุ 30 ปี อาชีพเทรนเนอร์ฟิตเนส พร้อม น.ส.ณิชากร คูหาจิต อายุ 31 ปี แฟนสาว แจ้งความกับ ร.ต.อ.วิศรุจ ทาทอง รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎรบูรณะ หลังนายภักดิ์พิสิฐ ถูกลูกค้าวางยาสลบในน้ำส้มที่ให้ไว้ หลังไปสอนย่านพุทธบูชา แล้วนำน้ำขวดดังกล่าวกลับมาดื่มที่บ้านตัวเอง ก่อนจะสลบไม่ได้สติไป 2 วันเต็ม ซึ่งเจ้าตัวได้โพสต์เรื่องราวไว้บนเฟซบุ๊กส่วนตัวจนมีคนแชร์เรื่องดังกล่าวต่อไปเป็นวงกว้าง
นายภักดิ์พิสิฐ กล่าวว่า ลูกเทรนคนนี้เพิ่งติดต่อผ่านเพจและมาเรียนได้ 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกเขานัดไปเรียนที่ฟิตเนสของโรงแรมย่านสีลม ซึ่งมีคนอื่นอยู่เยอะ และตนก็ดื่มน้ำที่ฟิตเนสจัดไว้ให้ จนครั้งที่ 3 เป็นวันที่ 4 เม.ย.เขานัดไปสอนที่บ้าน ซึ่งเป็นทาวเฮ้าส์ย่านพุทธบูชา ตนก็รู้สึกแปลก เพราะบ้านเขามีอุปกรณ์เป็นดัมเบลเพียงคู่เดียว และเขาใส่กางเกงในว่ายน้ำตัวเดียวเรียน อีกทั้งส่วนกลางยังมีคลับเฮ้าส์อยู่แล้ว เหมือนคนไม่ได้ตั้งใจจะออกกำลังกาย แต่อยากอยู่กันสองต่อสองมากกว่า ตนก็รู้สึกว่าเขาอันตราย แต่ก็พยายามสอนๆ ให้จบๆ ไป โดยเขาไม่ได้พูดจาลวนลามและจับตัวอะไร
นายภักดิ์พิสิฐ กล่าวว่า จากนั้นลูกเทรนได้ให้น้ำส้มมาดื่ม พอตนบิดฝาขวด มันก็ปิดไม่สนิท ตนก็แกล้งดื่มเพราะเกรงใจ หลังเทรนเสร็จเขาก็นัดสอนอีกวัน แต่ตนไม่ไว้ใจจึงลองนำน้ำส้มกลับไปดื่มที่บ้าน อึกแรกก็รู้สึกขม แต่ก็ดื่มอีกอึก แล้วภายใน 15 นาที ก็มีอาการเหมือนคนเมาเดินเซ พอก้มตัวลงที่นอนในห้องก็ฟุบหน้าแล้วหลับโดยไม่รู้ตัวไปในเวลาไม่กี่นาที ก่อนจะตื่นมาช่วงบ่ายสองโมงของอีกวันแต่ขยับตัวไม่ได้ ต้องคลานไปอาเจียน แล้วกลับไปหลับอีก 1 วันเต็ม
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องเหมือนเขายังไม่ทราบว่าตนโพสต์เฟซบุ๊กไปแล้ว เขายังทักมาว่า ตัวเองทำวิจัยเรื่องการนวด อยากให้ตนมาเป็นแบบ พร้อมจะให้ค่าน้ำมัน ตนก็ยังไม่ตอบไป ซึ่งเขายังคงเคยส่งภาพของลับมาให้ตนผ่านในไลน์ คิดว่าตั้งใจส่งมาให้ด้วย และที่น่าแปลกคือเขาบอกว่ามีครอบครัวแล้ว แต่ตอนตนไปสอนที่บ้านกลับไม่มีใครอยู่ เขาก็อ้างว่าออกไปทำงานกัน
นายภักดิ์พิสิฐ กล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องมาแจ้งความ เพราะต้องการให้ตรวจสอบสารเคมี และเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ใจ เพราะบางกระแสบอกว่าตนสร้างเรื่อง ก็อยากฝากถึงเทรนเนอร์อื่นๆ ให้ระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเทรนเนอร์ผู้หญิง อยากให้นำน้ำไปดื่มเอง
ด้าน น.ส.ณิชากร กล่าวว่า ปกติลูกเทรนจะให้น้ำให้ขนมกับครูสอนอยู่แล้ว แต่แฟนตนเห็นว่าฝาของน้ำส้มไม่ล็อกสนิทเหมือนขวดใหม่ จึงทำเป็นดื่มแล้วเก็บกลับบ้าน แต่เขาก็กลัวว่าตัวเองจะคิดมากไป จึงลองดื่มช่วงระหว่างคืนวันที่ 4-5 เม.ย.แล้วเขาก็โทรศัพท์มาหาตน บอกว่าปวดหัวถูกมอมยา ตนก็คิดว่าเขาพูดเล่น แต่เสียงเขาพูดไม่รู้เรื่อง เหมือนกำลังอาเจียนตลอดแล้วก็เงียบไป ตนยังไม่เอะใจอะไร แต่เขาไม่ออกมารับตนจากที่ทำงานเหมือนปกติ
น.ส.ณิชากร กล่าวอีกว่า พอตนกลับมาก็ขึ้นไปดูเขาในห้องนอน ก็พบว่าหลับอยู่ มีเสียงกรนแตาเบากว่าปกติ เมื่อดูใกล้ๆ เขาก็มีน้ำลายเป็นฟองที่ปาก ตนยังไม่เอะใจอะไรก็บันทึกวิดีโอไว้ตลกๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วง กระทั่งเช้าวันต่อมา เขาก็ยังไม่ตื่นตามปกติ แต่ตนต้องรีบออกจากบ้านไปทำงานแล้ว จึงไม่ทันอยู่ดู กระทั่งแม่เขาติดต่อมาบอกว่าแฟนตนไม่ไหวแล้ว ก่อนเขาจะหลับไปและตื่นมาอีกรอบช่วงดึกแต่อาการปวดหัวยังไม่ดีขึ้น จึงพาไปโรงพยาบาลใกล้บ้านแต่ที่นี่ไม่มีห้องแล็ปสำหรับตรวจสารเคมี พอรออีกวันก็เป็นวันหยุดราชการ จึงยังไม่สามารถนำไปตรวจหาสารเคมีได้ ก่อนจะมาแจ้งความพร้อมนำตัวอย่างน้ำส้มมามอบให้เจ้าหน้าที่นำไปตรวจสอบ
เบื้องต้นตำรวจสอบปากคำผู้เสียหายพร้อมนำหลักฐานมารวบรวมไว้ ก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา พิจารณาสั่งการอีกครั้ง
/////