เมื่อเวลา 18.00 น วันที่ 8 เม.ย. พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผกก.ดส.บช.น ฐานะเจ้าหน้าที่ชุดเทคนิคและสืบสวน ชุดที่ 2 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) พ.ต.ท.ชยุต ยอดยิ่งนาทกุล, พ.ต.ท.ปียรัช เวสสะโกศล, พ.ต.ท.นราธิป คงเพ็ชร์ รอง ผกก.กก.ดส. ได้สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ต.หญิง ชาดา เสสะเวช สว.กก.ดส.บช.น. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 3 กก.ดส.บช.น. ติดตามจับกุมนายสมภพฯ อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 225/2565 ลงวันที่ 1 เม.ย. 2565 นายปัญญาพรฯ อายุ 54 ปี ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 223/2565 ลงวันที่ 1 เม.ย. 2565 ข้อหา “ร่วมกัน ทำ ประกอบ ซ่อมแซม เปลี่ยนลักษณะ สั่ง นำเข้า มี หรือจำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่และจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนแก่ผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตให้ซื้อหรือมีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490” เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมา พร้อมด้วยของกลาง อาวุธปืนยาวอัดลมแรงดันสูง จำนวน 6 กระบอก อาวุธปืนสั้นอัดลมแรงดันสูง จำนวน 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 ประมาณ 10,000 ลูก อุปกรณ์ส่วนควบชนิดต่างๆ ที่ใช้ประกอบขึ้นเป็นอาวุธปืนกว่า 1,000 รายการ เช่น แท่งอลูมิเนียม (ใช้ผลิตชุดลั่นไก), ลำกล้องปืน, อุปกรณ์ท่อลดเสียง (ไซเรนเซ่อร์),โก่งไกปืน,พานท้ายปืน, กล้องช่วยเล็งปืน,ด้ามปืน ฯลฯ
สืบเนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าวได้ลักลอบทำการผลิตอาวุธปืนชนิดอัดลมแรงดันสูงแบบ PCP ขนาดเบอร์ 2 (.22 นิ้ว หรือ 5.5 มม.) ซึ่งถือเป็นอาวุธปืนตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เนื่องจาก อาวุธปืนดังกล่าวสามารถใช้ยิงทำอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้ โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้ช่องทางออนไลน์ จัดตั้งเพจเฟซบุ๊กชื่อ “แสงแดด สายลม” และ เพจเฟซบุ๊กชื่อ “ลมไทย” เป็นพื้นที่ในการลงประกาศขายอาวุธ ปืนดังกล่าวให้แก่ลูกค้าเป็นจำนวนมาก ต่อมาชุดสืบสวนกก.ดส.ชุดปฏิบัติการที่ 3 จึงได้ทำการสืบสวนจนพบว่าอาวุธปืนดังกล่าวที่มีการลง ประกาศขายทางเพจเฟซบุ๊กมีนายปัญญาพร เป็นผู้ทำผลิตขึ้นมา และจะทำการจัดส่งอาวุธปืนดังกล่าวให้กับทางลูกค้าที่สั่งซื้อจากทางเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว โดยจัดส่งเป็นรูปแบบพัสดุกับผู้ให้บริการขนส่งเอกชน
จึงขยายผลการตรวจสอบจนพบว่า แหล่งผลิตอาวุธปืนดังกล่าวนั้น ตั้งอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 2 ต.ลดงประคำ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โดยมีนายสมภพผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กชื่อว่า “เก้ อล็อต” และ “Tujunaochar Prayut” ทำหน้าที่เป็นแอดมินในการนารูปอาวุธปืนที่ นายปัญญาพรผลิตขึ้นมา มาทำการลงประกาศขายในเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตารวจ ดส. จึงได้ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและจับกุมตัวบุคคลดังกล่าวทั้ง 2 ได้บริเวณดังกล่าว จากการสืบสวสนายปัญญาพร และนายสมภพให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันทาและผลิตอาวุธปืนดังกล่าวขายทางเพจเฟซบุ๊ก มาแล้วเป็นเวลาประมาณ 5 ปี โดยจะจาหน่ายอาวุธปืนดังกล่าวในราคากระบอกละ 12,000-26,000 บาท เลยดูผ่านยูทูปและทำเพราะความชื่นชอบในการชอบเล่นอาวุธปืน โดยปกตินายสมภพประกอบอาชีพรปภ. ทำหน้าที่ดูแลเพจซื้อขายโอนเงิน และนายปัญาพรเป็นผลิตอาวุธปืนอาชีพ เบื้องต้นได้นำต่อพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.นางเลิ้ง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
กก.ดส. ขอเรียนพี่น้องประชาชนว่า อาวุธปืนชนิดอัดลมแรงดันสูง แบบ PCP ดังกล่าว จัดเป็นอาวุธปืน ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และ สิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490” ผู้ที่จะมีไว้ในความครอบครองต้องเป็นผู้ได้รับอนุญาตจากนายทะเทียนท้องที่ ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490” ดังนั้นหาก บุคคลใดมีไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษ จาคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท โดยผู้ที่จะทาการค้าอาวุธปืนดังกล่าวก็จะต้อง เป็นผู้ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ สองปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่สี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท