ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 194 ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ อยู่ลึกเข้าไปในซอยดังกล่าวประมาณ 200 เมตร พบศพ นายไกร ทีบัวบาน อายุ 44 ปี อาชีพคนเก็บของเก่า สภาพสวมเสื้อเชิ๊ตสีดำลายดอกไม้สีส้มชมพู สวมกางเกงขาสั้นสีเขียว นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าร้าน พบบาดแผลถูกของมีคมแทงบริเวณหลังกกหูด้านขวา และพบอาวุธมีดความยาวประมาณ 6 นิ้ว ตกอยู่ภายในร้าน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัว นายสถาพร หรือนัท มนธิสา อายุ 41 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้ก่อเหตุดังกล่าว ได้บริเวณใกล้เคียง พร้อมของกลาง อาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ
นายขจรชัย พอเจริญวัฒนากุล อายุ 40 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังขับรถจักรยานยนต์เพื่อออกไปส่งของ แม่ของตนได้โทรมาบอกว่าผู้ก่อเหตุโวยวายอยู่บริเวณหน้าร้าน เมื่อกลับมาถึง ก็พบผู้ก่อเหตุมีอาการเมาสุรา และพกอาวุธมีดมาด้วย ยืนโวยวายทำนองว่าร้านของตนไม่ยอมขายเหล้าให้ และข่มขู่ว่าถ้าใครแจ้งตำรวจจะต่อยให้หมด จากนั้นผู้ตายได้เดินเข้ามาซื้อของ และทักทายผู้ก่อเหตุเนื่องจากรู้จักกัน ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่ผู้ก่อเหตุกำลังจะเดินออกจากร้านของตน จู่ๆ ผู้ก่อเหตุกลับใช้อาวุธมีดที่พกมาแทงใส่ผู้ตาย จากด้านหลัง1ครั้ง จากนั้นได้ขว้างอาวุธมีดเข้ามาในร้านของตน โดยเมื่อช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้เข้ามาซื้อไฟแช็กที่ร้านของตน ก็มีอาการปกติ ไม่มีท่าทีว่าจะก่อเหตุดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุพักอาศัยอยู่บริเวณปากซอย เมื่อดื่มสุราแล้วมักชอบท้าต่อยตีผู้อื่น จึงพกมีดไว้ตลอด คาดว่าก่อนก่อเหตุก็คงถูกไล่มาจากที่อื่น
ด้าน นางอุไร ทีบัวบาน อายุ 61 ปี มารดาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนพักอาศัยกับลูกชายบริเวณซอยลาดพร้าว 63 แยก 2 ก่อนเกิดเหตุลูกชายจะออกไปซื้อเหล้าให้ตน แต่แล้วกลับมีเพื่อนบ้านมาแจ้งว่าลูกชายถูกแทง โดยผู้ก่อเหตุทำงานรับจ้างทั่วไป และเคยทำงานร่วมกับลูกชายของตน ปกติแล้วลูกชายตนไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใคร รวมถึงไม่เคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุเช่นกัน
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง อ้างว่าโมโหที่ถูกด่าบุพการี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นฯ และ พกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ” ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัยเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป