เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นประธานการ พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย รองผบช.น. ผบก.น.1 – 9 ผบก.สปพ. ผบก.สส.บช.น. รองผบก. อบรมให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 88 สน. และผู้ประกอบการสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และสถานบริการอาบอบนวดทั้งหมด 715 แห่ง ประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ที่ห้องประชุมปารุสวัน 1 โดยมีตัวแทนฝ่ายกฎหมายกรุงเทพมหานครเป็นวิทยากรอบรม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ เปิดเผยก่อนการประชุมว่า ภาพรวมรองผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจสอบยังไม่พบปัญหาควบคุมการปฏิบัติให้ความร่วมมือในระดับที่ดี วันนี้กำชับการปฏิบัติ ผู้ประกอบการ 2 ส่วน อาบอบนวด 34 แห่ง และร้านประเภทอื่น 689 แห่ง ลงระบบแอพพลิเคชั่น thai stop covid ให้เข้าตามแบบแผนการปฏิบัติ จากนั้นกรุงเทพมหานครจะตรวจสอบ แล้วออกใบรับรองผ่านการมาตรฐานการควบคุม ให้อยู่ในกรอบที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ไม่ให้เกิดคลัสเตอร์แพร่ระบาดโควิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าว เนื่องจากกรุงเทพเป็นเมืองนำร้องการท่องเที่ยว
ส่วนมาตรฐานหลักนั้น พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครดำเนินการ ดูแลระยะการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อโรค โดยเฉพาะการเปิดปิดสถานประกอบการให้ตรงเวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีเป็นห่วงเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ส่วนพื้นที่มีความกังวลนั้น กรณีสถานบันเทิง มีความจำเป็นถอดหน้ากาก ถ้าผู้ให้บริการผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน การฉีดวัคซีนให้พนักงานภายในร้านไม่ต่ำกว่า 3 เข็ม รวมถึงข้อกำหนดอื่นๆ ส่วนพื้นที่อาบอบนวด 34 แห่ง ดำเนินการตามมาตรฐาน กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นตัวแทนของทั้งประเทศ หากเกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะมีผลกระทบทั้งหมด จึงมีการสั่งกำชับจาก พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตำรวจในพื้นที่ห้ามปล่อยปละละเลยเด็ดขนาด ซึ่งผู้ประกอบการต้องให้ความร่วมมือเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ต่อไป
