พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์
ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์
รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม
พ.ต.อ.ปรีชา ทิมหอม
ผกก.สภ.บางเลน
พ.ต.อ.ธนบดี บุญพา
นวท.(สบ.4)กลุ่มงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 1 ราย ซึ่งก่อเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นมีเสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ
1 นายสุริพล ศรีคำหู้ อายุ 75 ปี ผู้ต้องหาหมายจับศาลจังหวัดนครปฐม ที่ จ.149/2565 ลงวันที่ 1 มิถุนายน2565
พร้อมด้วยของกลาง
1.อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ยี่ห้อ Colt ขนาด .38 ซุปเปอร์ หมายเลขทะเบียน นฐ 4/8449 ของผู้ต้องหาที่ใช้ก่อเหตุ จำนวน 1 กระบอก
2.ซองบรรจุกระสุน จำนวน 2 ซอง
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ข้อหา “ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน”
พฤติการณ์กล่าวคือ
ด้วยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เวลำประมาณ 10.50 น. สถานีตำรวจภูธรบางเลนได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดที่บริเวณริมถนนสาธารณะ ม.1 ต.คลองนกกระทุง อ.บางเลน จ.นครปฐม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และจากการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พบนายณรงค์ ศรีคำหู้ อายุ 80 ปี ถูกยิงได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยพบปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 ซูปเปอร์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ปลอก และทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางเลนคือนายสุพช ศรีคำหู้ อายุ 50 ปี ผู้ใหญ่บ้านม.1 ต.คลองนกกระทุง อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยนายสุพชฯ เป็นบุตรของนายณรงค์ฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวพยานในที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายสุริพล ศรีคำหู้ อายุ 75 ปี เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงบุคคลทั้งสอง โดยนายสุริพลฯ เป็นน้องชายของนายณรงค์ฯ หลังเกิดเหตุได้ขับรถยนต์กระบะหลบหนีไป พนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครปฐมขออนุมัติหมายจับ ซึ่งศาลจังหวัดนครปฐมอนุมัติหมายจับที่จ.149/2565 ลงวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ในฐานความผิด “ฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นฯ”
ต่อมาในวันที่ 3 มิถุนายน 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณริมถนนพลดำริห์ หมู่8 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมด้วยอาวุธปืนของกลางที่ใช้ก่อเหตุ จึงนำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและผู้เกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า”คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์” และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความวิริยะ อุสาหะ โดยเน้นย้ำให้ทำงานด้วยความรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ผบ.ตร.ได้ฝากข้อห่วงใย
ซึ่งการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดหลักการทำงานแบบ “กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก” จนสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชน
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ณ สภ.บางเลน ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม
