จากกรณีเมื่อวันที่ 26 พ.ค.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.4 และเจ้าหน้าที่ ตม.จว.เชียงราย ได้ร่วมกันนำกำลังเข้าตรวจค้น ที่ป่าสักทองรีสอร์ท ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ สภ.เมืองเชียงราย) และ เชียงราย โฮมสเตย์ รีสอร์ท ต.ดอยฮาง อ.เมือง จ.เชียงราย (พื้นที่รับผิดชอบ สภ.แม่ยาว) พบกลุ่มผู้ต้องหามีการลักลอบถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ผ่านแอพลิเคชั่นจีน โดยใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ถ่ายทำ โดยสามารถเข้าช่วยเหลือเยาวชนซึ่งถูกบังคับให้มาแสดงดังกล่าว เป็นชาวไทยและชาวลาว รวมกว่า 40 คน โดยมีผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้จัดให้มีการถ่ายทำดังกล่าว จำนวน 5 คน เป็นชาวจีน 4 คนและชาวไทยอีก 1 คน ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลนำเสนอไปแล้ว นั้น
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (24 มิ.ย.65) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ได้มีการประชุมเร่งรัดติดตามผลการดำเนินคดีดังกล่าว ซึ่งได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 12 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ และเป็นผู้จัดหาเยาวชนมาเพื่อมาร่วมไลฟ์สดดังกล่าว ทำให้ขณะนี้สามารถดำเนินคดีและออกหมายจับผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 17 ราย (เป็นชาวจีน 10 ราย ชาวไทย 3 ราย ชาวลาว 4 ราย) จับกุมแล้ว 16 ราย ยังหลบหนีอีก 1 ราย คือนายหลิว กัวเทา สัญชาติจีน ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนติดตามผู้ต้องหารายดังกล่าวต่อไป ในส่วนของเหยื่อทั้งที่เป็นผู้ใหญ่และเยาวชนที่ได้รับการช่วยเหลือ ปัจจุบันอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
พฤติการณ์ของคนร้ายกลุ่มนี้ กล่าวคือ กลุ่มผู้ต้องหาได้มีการทำแอพลิเคชั่นจีนขึ้นมา เพื่อให้ผู้สนใจเข้ามา เสียเงินสมัครสมาชิกเพื่อดูการถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์ โดยสมาชิกสามารถร้องขอให้คนแสดงสามารถทำตามที่ตนต้องการได้ เช่น ถอดเสื้อผ้า จับอวัยวะเพศ มีเพศสัมพันธ์ หรือเปลี่ยนคู่แสดง เป็นต้น โดยกลุ่มผู้ต้องหาได้ใช้สถานที่ตามที่พักและโรงแรมต่างๆ ในพื้นที่ จ.เชียงราย เป็นสถานที่ในการถ่ายทอดสดดังกล่าว รวมทั้งยังมีการนำเยาวชนทั้งชาวไทยและชาวลาวจากพื้นที่ต่างๆ นำมาถ่ายทอดสดการมีเพศสัมพันธ์อีกด้วย ซึ่งนักแสดงจะได้ค่าตอบแทนสำหรับผู้ชาย 500 บาท และผู้หญิง 2,000 บาทต่อ 1 รอบๆ ละประมาณ 40 นาที โดยปกติจะมีการเช่าห้องหลังหนึ่ง แล้วให้เยาวชนทั้งหมดอยู่แออัดรวมกันในห้องเดียวกัน และถูกบังคับทำงานแสดงโชว์ วันละ 2 ช่วง ได้แก่ 08.00 – 17.00 น. และ 19.00 – 03.00 น. รวมกว่า 16 ชั่วโมง ก่อนจะได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม
นอกจากนี้ จากการขยายผลของชุดสืบสวน ศพดส.ตร. พบว่า ในช่วงระหว่างที่กลุ่มผู้ต้องหาได้กระทำความผิดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ จ.เชียงราย นั้น ได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบการกระทำความผิดดังกล่าวมาแล้วในช่วงประมาณเดือนมีนาคม 2565 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับเพิกเฉยและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และยังได้มีการเรียกรับผลประโยชน์เพื่อให้ไม่มีการจับกุมเกิดขึ้น โดยเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองกำกับการสืบสวนจังหวัดเชียงราย จำนวน 4 ราย ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จว.เชียงราย ได้มีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 4 ราย และได้ดำเนินการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ประกอบด้วย
1.พ.ต.ท.พิษณุ เตรียมดี รองผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย
2.ร.ต.อ.วิเชิด กิติมา รอง สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย
3.ร.ต.อ.ประพันธ์ ทะรินทร์ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.เชียงราย
4.ส.ต.อ.ปิยกร แก่นพล ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่สื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ โดยได้มีการประชุมเร่งรัดและติดตามการดำเนินคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการขยายผลสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มเติมจำนวนมาก ได้มีการกำชับชุดพนักงานสอบสวนให้มีความรัดกุมในการรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งให้มีความละเอียดรอบคอบและใช้หลักผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางในการสอบปากคำเหยื่อที่ได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนี้ ยังได้มีการสืบสวนพบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐที่มีการปล่อยปละละเลยการปฏิบัติหน้าที่ เรียกรับผลประโยชน์และไม่จับกุมผู้ต้องหาไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ดังนั้นหากพบว่ามีการกระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาจริง จะดำเนินการทั้งทางวินัยและกฎหมายโดยเด็ดขาด
ในการนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการและการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็ก หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง ช่องทางสายด่วน 1599 หรือ www.humantrafficking.police.go.th หรือ ผ่านช่องทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/TICAC2016 หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุดคือ การสแกน QRCODE เพื่อกรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าวเพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป
