เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 8 ก.ค. พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม โดย พ.ต.ท.เสน่ห์ มณีฉาย รอง ผกก.สส.สน.สายไหม พ.ต.ต.สุวิทย์ หล่มศักดิ์ สว.สส.สน.สายไหม ร.ต.อ.สุนทร ไตรเวช ร.ต.อ.รุ่งโรจน์ โมฆรัตน์ รอง สว.สส.สน.สายไหม และฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ในคดีที่น่าสนใจจำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 2 คน
คดีแรก จับกุมนายไพฑูรย์ คำมุงคุณ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.705/2565 ลง 4 กรกฎาคม 2565 ฐานความผิด ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทาง ให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือพาเอาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และบุกรุกเคหสถานของผู้อื่นในเวลากลางคืน จับกุมได้บริเวณริมถนนชุมชนหลักหก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี วันเวลาที่ 4 ก.ค. เวลาประมาณ 21.30 น.
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รับข้อมูลว่ามีคนร้ายออกตระเวนลักทรัพย์ตามหมู่บ้านหลายครั้ง ประกอบกับมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความไว้ที่สน.สายไหม หลังได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนมาโดยตลอด กระทั่งทราบตัวคนร้ายนี้คือนายไพฑูรย์ คำมุงคุณ ซึ่งมีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์หลายครั้ง และเพิ่งพ้นโทษออกมาในคดีลักทรัพย์เมื่อเดือน ธันวาคม 64 เมื่อนำภาพวงจรปิดที่ได้มาเทียบเคียงรูปพรรณ พบว่าตรงกัน เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติหมายจับ
กระทั่งวันที่ 4 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้แจ้งจากสายลับพบนายไพฑูรย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับเดินอยู่ในชุมชนหลักหก ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงนำกำลังเฝ้าสังเกตุการณ์จนพบตัว ก่อนแสดงหมายจับและความคุมตัวสอบสวนที่สน.สายไหม เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุเข้าไปลักทรัพย์ตามหมู่บ้านจริง โดยก่อเหตุในพื้นที่สน.สายไหม 3 หลังในคืนเดียว เงินที่ได้มานำไปเล่นพนันออนไลน์และใช้จ่ายส่วนตัว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเนื่องจากแนวทางการสืบสวน พบว่านายไพฑูรย์ ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง จะเน้นเฉพาะหมู่บ้านหรู โดยปีนกำแพงเข้าทางด้านหลังหมู่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของรปภ. จากนั้นจะเดินตระเวนหาบ้าน หรือรถยนต์ที่ไม่ได้ล็อกก่อนจะเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน แล้วปีนรั้วออกทางเก่า
คดีที่สอง จับกุมตัวนายปรมินทร์ ไชยแก้ว อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 169/2565 ลง 25 มีนาคม 2565 ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือ เพื่อให้พ้นการจับกุม โดยจับกุม บริเวณหอพักไพริน อาพาทเม้นท์ ห้องพักเลขที่A4-13 ชั้น4 ซอยพหลโยธิน 52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 17.30 น. ( 7 ก.ค. ) ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค. ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น สกุ๊ปปี้ ไอ สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน 1 กส 4336 สกลนคร ที่จอดอยู่ในลานจอดรถ บ้านบารมีอพาร์ทเม้น ไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.สายไหม ทำการสืบสวนและตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าหลังจากคนร้ายขโมยรถออกมา ได้ให้รถจักรยานยนต์รับจ้างถีบรถมาเก็บไว้ที่อพาร์ทเม้นดังกล่าว จึงได้ลงพื้นที่และพิสูจน์ทราบตัวบุคคลคือนายปรมินทร์ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของสภ.คูคต จนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนนำตัวส่งสภ.คูคต ดำเนินคดี
จากการขยายผลผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์มาแล้วทั้งหมด 23 คัน ในพื้นที่สายไหม ดอนเมือง คูคต จ.ปทุมธานี ธัญบุรี ปทุมธานี ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเน้นเฉพาะรถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้า หลังได้รถมาทุกครั้งก็จะขับรถนำไปขายในซอยรามคำแหง 68 ในราคาคันละ 5000-10000 บาท
และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาฝ่ายสืบสวนสน.สายไหมได้นำหมายค้นศาลอาญาที่ 521 /2565 ลงวันที่ 8 กรกฏาคม 2565 เข้าตรวจค้นเพิงพักไม่มีเลขที่ ในซอยรามคำแหง 68 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จากการจรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟไอ สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดอยู่ 1 คัน ลักษณะไม่ได้ล็อกคอรถ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะไหวตัวทันก่อนหน้านี้ เมื่อสอบถามชาวบ้านในระแวกใกล้เคียงระบุว่าไม่ทราบว่าเป็นรถใคร และไม่มีผู้ใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่ารถคันดังกล่าวได้มีการแจ้งหายไว้ที่ สภ.ปากน้ำ ไว้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จึงได้ทำการตรวจยึดมาไว้ที่สน.สายไหม ก่อนประสานเจ้าของรถมารับคืนต่อไป
