Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

สายไหมต้องรอด พาเหยื่อแรงงานไทย ถูกเอเจนซี่อ้างพาไปทำงานเกาหลี ก่อนหลอกกินเงินค่าดำเนินการ

สายไหมต้องรอด พาเหยื่อแรงงานไทย ถูกเอเจนซี่อ้างพาไปทำงานเกาหลี ก่อนหลอกกินเงินค่าดำเนินการ

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 18 ก.ค.ที่ ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งกลุ่มสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน พาตัวแทนแรงชาวไทย เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ธงชัย สุยะลังกา รอง ผกก.1 บก.ปคม. เพื่อแจ้งความเอาผิดนายหน้าเป็นหญิงชาวไทย ซึ่งมีสามีเป็นชาวเกาหลีใต้ หลอกเก็บเงินค่าดำเนินการอ้างพาไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่เมื่อจ่ายเงินแล้วกลับไม่สามารถไปทำงานได้ ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน,หลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

น.ส.เอ (นามสมมุติ) กล่าวว่า เห็นบริษัทดังกล่าว เป็นเอเจนซี่จัดหางานต่างประเทศ มีหญิงชาวไทยเป็นนายหน้า และสามีชาวเกาหลีใต้ กับชายไทยอีกรายหนึ่ง โฆษณาชักชวนไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ผ่านเฟซบุ๊ก อ้างว่าบินก่อนผ่อนทีหลังได้ แต่เป็นการไปทำงานอย่างไม่ถูกกฎหมาย โดยบริษัทอ้างว่าจะปลอมแปลงเอกสารให้ และอ้างว่าเคยส่งคนไทยไปทำงานแล้วกว่า 2,000 คน

แต่เมื่อสนใจติดต่อไปกลับถูกเรียกเก็บเงินค่าประกันการบินไปก่อนประมาณ 7,500 บาท รวมๆ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดบางรายมีราคาตั้งแต่ 15,000 ถึงหลักแสนบาท กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะไปทำเรื่องลงทะเบียน K-ETA ของ ตม.เกาหลี หรือ ระบบการขอเอกสารอนุมัติการเดินทางแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่ต้องขอวีซ่า สำหรับชาวต่างชาติ กลับปรากฎว่าไม่ได้รับการอนุมัติ จึงพยายามติดต่อกับนายหน้าคนดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก ที่ผ่านมามีผู้ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกในลักษณะเดียวกันกว่า 50 ราย

“ยอมรับว่าสิ่งที่ทำไม่ถูกต้อง แต่ตัวเองมีหนี้สินเป็นล้านบาท เหลือแค่แม่คนเดียว อีกทั้งงานในประเทศไทยได้เงินน้อย” น.ส.เอ กล่าวทั้งน้ำตา

นายเอกภพ กล่าวว่า เพจสายไหมต้องรอดได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีเหยื่อถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศทั้งโซนยุโรปและเอเชียแล้วหลายราย บางคดียังไม่คืบหน้า หลังแจ้งความแล้วจะประสานไปยังกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ตรวจสอบบริษัทแห่งนี้ เนื่องจากเป็นการหลอกชาวไทยด้วยกันเอง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหายพร้อมพิจารณาประกอบพยานหลักฐานก่อนรายงานผู้บังคับบัญชา สั่งการต่อไป

Total
0
Shares
Previous Article

ดส.บุกร้าน"พหลบาร์"เปิดเกินเวลาพบนักดื่มเยาวชน32คนพร้อมยาเสพติดเคตามีน

Next Article

ผู้หมู่ อคฝ.ซิ่ง จยย.ไม่สวมหมวกแหกโค้งชนแบริเออร์ดับคาถนนวิภาวดี

Related Posts