Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือถึงนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือถึงนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมี พันตำรยจตรีวรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นตัวแทนรับหนังสือร้องเรียน กรณีเหตุเพลิงไหม้ผับเมาเท่นต์บี อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายคน เพื่อขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีที่ร้ายแรง และคาดว่าน่าจะมีหุ้นส่วนร้านรายอื่นอีกที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ โดยมีเหตุผล 3 ประการคือ

1.สถานบันเทิงที่เปิดโดยไม่มีมาตรการความปลอดภัย และจดแจ้งผิดประเภท อีกทั้งเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และเปิดให้เยาวชนที่อายุไม่ถึงเกณฑ์เข้าใช้บริการ ข้าฯไม่เชื่อว่าตำรวจในท้องที่ และเจ้าหน้าที่มหาดไทยจะไม่ทราบเรื่องนี้ และการกระทำผิดกฎหมายอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้ น่าเชื่อว่าจะมีการให้ทรัพย์สิน หรือให้ผลประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าหน้าที่เพื่อจูงใจให้กระทำการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และเมื่อมีการเสนอผลประโยชน์แก่ท้องที่ และมีเหตุที่ร้ายแรงเกิดขึ้นเช่นนี้ การจะให้ท้องที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เกรงว่าจะเกิดผลประโยชน์ทับซ้อน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมอย่างร้ายแรง และอาจทำให้ผู้เสียหาย ทั้งผู้ตาย และผู้บาดเจ็บไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างเต็มที่

2.การเปิดร้านผับบาร์ สถานบันเทิงที่กระทำการผิดต่อบทกฎหมายหลายข้อ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วมักจะมีหุ้นส่วนเป็นทหาร ตำรวจหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง และเจ้าของร้านที่ถูกจับกุมอายุเพียงแค่ ๒๗ ปี ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเจ้าของร้านแต่เพียงผู้เดียว จำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินและสืบหาหุ้นส่วนร้านรายอื่นซึ่งอาจเป็นผู้มีอิทธิพล หรือเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจเบื้องหลัง หากปล่อยให้ตำรวจท้องที่ดำเนินการ คาดว่าคดีคงตัดจบเพียงนายพงศ์ศิริ หรือ “เสี่ยบี” เป็นจำเลยแต่เพียงผู้เดียวแน่แท้

3.คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างร้ายแรงที่มีผู้เสียหายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากอันอยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ เป็นคดีที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยต่อการทำงานของตำรวจท้องที่ว่าการที่เร่งรัดตัดจบคดีนั้นเพื่อปกปิดบุคคลที่อยู่เบื้องและปกปิดความผิดอื่นๆอีกหรือไม่ ทั้งการเรียกรับส่วยหรือผลประโยชน์อื่นหรือการปล่อยปละละเลยให้มีการตั้งสถานบันเทิงที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่

นายรณรงค์ เปิดเผยว่า คดีนี้ทั้งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะต้องร่วมกันตรวจสอบทำคดีให้มีความชัดเจน ในการเอาผิดถึงนายทุนเจ้าของผับเม้าต์เท่นบีตัวจริงมารับผิดชอบ ไม่ใช่ตัวละครแทน อีกทั้งยังไม่มั่นใจว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบ จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นธรรม เช่นเดียวกับกรณีของซานติก้าผับ เมื่อปี 2552 จั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอะไรเลย หากไม่มีการแก้กฎหมายก็อาจจะทำให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต จึงไม่อยาก ให้เป็นการ วัวหาย (ไม่) ล้อมคอกอีก เหมือนเช่นซานติก้าผับที่ 13 ปี รัฐไม่เคยแก้ไขอะไรเลย

ด้านพันตำรวจตรีวรณัน เปิดเผยว่า จะให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับกรณีที่เกิดขึ้นก่อน จากนั้นก็จะนำมาพิจารณาว่าเข้าหลักเกณฑ์จะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ซึ่งในคำร้องที่ยื่นมาระบุว่า อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร

Total
0
Shares
Previous Article

สุ่มตรวจผับย่านรัชดา เขตจตุจักร เร่ง 18 ร้านแก้ไขทางหนีไฟให้ถูกต้อง พร้อมไฟฉุกเฉินและอุปกรณ์ดับเพลิง

Next Article

ผบช.ภ5ออกตรวจสถานประกอบการต่างๆ ในเขตพื้นที่ โดยได้ตรวจที่ร้านท่าช้าง อ.เมืองเชียงใหม่

Related Posts