
กระทรวงยุติฯ เร่งคดีไฮโซเบลล์พร้อมสั่งทีมคุ้มครองพยานลงพื้นที่ป้องกัน อดีตสามีกลับมาคุกคาม
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด พานางสาวธัญญ์สมินธิ์ มหาโชติเทวากุล หรือ เบลล์ ญาณบารมี ไฮโซสาว เจ้าของบริษัท หมื่นมนต์ตรา ที่จำหน่ายน้ำหอม เครื่องรางนำโชค และรับดูดวงด้วยไพ่ยิปซีโบราณล้านนา เข้าพบ ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้ช่วยคุ้มครอง และติดตามคดีที่ถูกอดีตสามีทำร้ายร่างกาย นาน 2 ปี ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีไว้ในหลายพื้นที่ แต่คดีไม่มีความคืบหน้าใดๆ และหลังตัดขาดเลิกลาอดีตสามี ยังถูกอดีตสามีติดตามมาก่อเหตุ คลุ้มคลั่งจะพังเข้ามาในบ้านพักอยู่
ในวันนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมได้ เข้าร่วมรับฟังการร้องเรียน
โดยภายหลังการเข้ารับฟังการร้องทุกข์ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ระบุว่า หลังจากที่ๆด้ตรวจสอบหลักฐานต่างๆพบว่าพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุถือว่ามีความรุนแรง คุกคามอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากันแต่หากมีการทำร้าวร่างกายกันถือว่าผิดกฏหมาย และทราบว่ามีการเข้าแจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2564 และคดีไม่มีความคืบหน้า ตนเองจึงได้มีการประสานไปที่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 เพื่อสอบถามในประเด็นดังกล่าวแล้วจึงทราบว่าในวันนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่งได้สั่งการให้เจ้าของสำนวนคดีในพื้นที่ของ สภ.ปากเกร็ด ดำเนินการเรียกตัว ผู้ถูกกล่าวหามาดำเนินการแจ้งข้อหา และจะประสานไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดีที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้วในอีกหลายพื้นที่เพื่อให้เร่งรัดคดีในส่วนของการคุ้มครองพยานในวันนี้จะส่งให้เจ้าหน้าที่จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักของผู้เสียหายและดำเนินการวางแผนเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานเพื่อความปลอดภัยของตัวผู้เสียหายเอง
ทั้งนี้ตนเองยังขอฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าขอให้หยุดการกระทำความรุนแรงในลักษณะนี้รวมถึงขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางผู้ก่อเหตุไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อนให้ช่วยกันตักเตือนเพราะหากยังไม่หยุดการกระทำกรมราชทัณฑ์ยังคงมีพื้นที่เอาไว้รองรับผู้ที่กระทำความผิดหรือประพฤติตัวแบบนี้อยู่เสมอ และยังรวมถึงว่าหากมีผู้ร่วมเดินทางไปก่อเหตุกับผู้กระทำความผิดก็อาจเข้าข่ายร่วมกันบุกรุกหรือทำร้ายร่างกายผู้อื่นซึ่งจะได้รับโทษเท่ากันกับผู้ก่อเหตุ
ขณะที่ในส่วนของพี่น้องประชาชนทั่วไปรวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐหากพบเห็นเหตุการณ์ที่มีหญิงสาวถูกทำร้ายและผู้ทำร้ายอ้างว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวขอให้ดำเนินการช่วยเหลือโดยทันทีเพราะแม้จะเป็นเรื่องใหม่ครอบครัวแต่หากมีการทำความผิดเกี่ยวกับร่างกายโดยการทำร้ายร่างกายถือว่าผิดกฎหมาย
ด้านนางสาวเบลล์ ระบุว่าหลังจากเดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรมและทราบว่ามีการดำเนินการช่วยเหลือด้านใดบ้างก็รู้สึกดีใจและรู้สึกปลอดภัยเพิ่มมากขึ้นเพราะยอมรับว่าที่ผ่านมาตนเองอยู่ในภาวะวิตกกังวลหวาดกลัวมีอาการตัวสั่นและร้องไห้เองอยู่เสมอใกล้เคียงกับภาวะโรคซึมเศร้าเพราะหวาดกลัวการถูกทำร้ายจากอดีตสามี เพราะแม้จะมีการตัดขาดเลิกรากันมาตั้งแต่ช่วงที่คลอดลูกคนสุดท้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยังถูกอดีตสามีคอยตามรังควานทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บอยู่เสมอทั้งยังเคยถูกทำร้ายร่างกายที่หน้าร้านอาหารชื่อดังในเขตพื้นที่ของ สน. ทุ่งมหาเมฆ และตนเองได้เข้าแจ้งความและพยายามเดินทางเพื่อขอหลักฐานกล้องวงจรปิดที่หน้าร้านอาหารแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดโดยเจ้าของกล้องวงจรปิดให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวและไม่อยากทำให้ชื่อเสียงของอาคารเสียหายซึ่งตนเองมองว่าอยากขอให้ทุกคนช่วยเหลือผู้หญิงที่ถูกกระทำเช่นตนเพราะทุกคนมักจะอ้างว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวทั้งทั้งที่ปัจจุบันผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นอะไรกับตนเองแล้วแต่ยังคงสะกดรอยตามหรือติดตามเฝ้าสังเกตุความเคลื่อนไหวของตนเองตามโซเชียลและสะกดรอยตามมาทำร้ายเชื่อว่าจะมีคนในลักษณะเดียวกับตนอยู่อีก
ส่วนคดีที่มีการแจ้งความไว้กับพนักงานสอบสวนในหลายพื้นที่ตนเองอยากขอให้ทางตำรวจดำเนินการช่วยเหลือในทางคดีเพราะความหวัดกลัวของตนเองมีเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุยังคงไม่รถลาในการคุกคามอีกทั้งยังมีการข่มขู่ประกาศว่าจะฆ่าให้ตายทั้งครอบครัว ซึ่งตนเองเชื่อว่าอดีตสามีสามารถทำได้เพราะพฤติการณ์ในการก่อเหตุมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
รวมถึง อดีตสามียังมีการพูดถึงว่ามีแบคเป็นนายตำรวจยศใหญ่ ไม่กลัวการแจ้งความดำเนินคดีของตนเอง ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเป็นการกล่าวอ้างแต่ยอมรับว่าในหลายหลายครั้งที่มีการบุกมาที่บ้าน มักจะได้ยินการพูดถึงเรื่องอาวุธและผู้มีอิทธิพลคอยหนุนหลังจึงทำให้ตนเองยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น
ขณะที่ทีมข่าวได้พยายามติดต่อสอบถามไปที่นายชวิศ หรือหมี่ อดีตสามีผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงโดยเมื่อนายหมี่รับสายให้ข้อมูลเพียงว่าขณะนี้ไม่สะดวกเนื่องจากอยู่ระหว่างการทำงานแล้วจะติดต่อกลับทีมข่าวอีกครั้งแต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากนายหมี่อีกเลย