
แพรรี่ พร้อมทนายเกิดผล เข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอให้สอบสวนมรรยาททนายความ กรณีใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม ผ่านการตอบโต้ในประเด็นสังคม จากกรณี นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือแพรรี่ ไลฟ์สดปะทะวาจา กับพระชาตรี เหมพันธ์ เจ้าอาวาสวัดพุทธวิหาร วัดไทยแห่งเดียวใน นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย
นายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรือ แพรรี่ พร้อมนายเกิดผล แก้วกำเนิด ทนายความ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมป์ ให้สอบสวนมรรยาททนายความต่อนายธรรมราช ทนายความ เจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊ก ชื่อบัญชี The lawyer of ligality หลังเกิดการตอบโต้ในประเด็นสังคม ผ่านสื่อออนไลน์แล้วนายธรรมราช โพสต์ข้อความและถ่ายทดสด โดยการใช้ถ้อยคำในลักษณะดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และเหยียดหยามเพศภาพ
นายไพรวัลย์ เปิดเผย ภายหลังกรณีของตัวเองกับพระชาตรี จบลง นายธรรมราชได้นำประเด็นข้อโต้งแย้ง ที่ตัวเองมีต่อพระชาตรี ไปแจ้งความโดยกล่าวหาว่า ตัวเองดูหมิ่นพระชาตรีและคณะสงฆ์ ซึ่งนายธรรมราช ได้โพสต์ข้อความ และถ่ายทอดสด เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยถ้อยคำที่กล่าวพาดพิงเสียดสี เรื่องเพศภาพ แม้จะไม่ได้ระบุชื่อตัวเอง แต่ฟังแล้วเข้าใจได้ ว่า หมายถึงใคร ซึ่งส่วนตัวเห็นว่า ถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ส่วนกรณีของนายเกิดผล เปิดเผยว่า ตัวเองได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นข้อกฎหมาย เกี่ยวกับการดูหมิ่นคณะสงฆ์ หลังมีประเด็นระหว่างแพรรี่กับนายธรรมราช หลังจากนั้น นายธรรมราชได้โพสต์ตอบโต้กลับ ซึ่งได้ใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสม โดยใช้อาการเจ็บป่วยของตัวเอง มาเกี่ยวข้อง ซึ่งถือเป็นการกล่าวเสียดสี เหยียดหยามและซ้ำเติม และไม่ได้มีท่าทีสำนึกต่อการกระทำเพราะพบว่า ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวพาดพิงซ้ำอีก
ขณะนายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมถ์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนของทั้ง 2 คน แล้ว จะส่งต่อกรรมการมรรยาททนาย ให้พิจารณาเรื่องเข้าสู่กระบวนการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยปกติไม่มีกำหนดระยะเวลา แต่ในทางปฏิบัติหากเป็นกรณีกระแสสังคม จะเร่งดำเนินการโดยเร็ว หลังเรียกทนายความผู้ถูกร้องเข้าให้ข้อมูล จะต้องมาพบภายใน 30 วัน สามารถเลื่อนได้แต่ต้องมีเหตุสมควร
ส่วนโทษทางวินัย มีหลายระดับ ตั้งแต่ ตักเตือน ,พักใบอนุญาต สูงสุด 3 ปี โทษร้ายแรงที่สุดคือ ลบชื่อออกจากสภาทนายความฯ