
รวบผัวเมียตีนแมวปีนประตูรั้วลักทรัพย์บ้านเจ้าของอพาร์ทเมนท์โจ๋งครึ่ม
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 4 ต.ค.ที่ห้องประชุม ชั้น 4 สน.วังทองหลาง พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะผกก.สน.วังทองหลาง พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.วังทองหลาง ร่วมกันแถลงจับกุม นายกิตติพงษ์ จี้เพชร อายุ 43 ปี และ น.ส.สุมาลี คำมงคล อายุ 30 ปี สองสามีภรรยาผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พร้อมของกลาง พระพุทธรูปหนึ่ง 1องค์ แว่นตากันแดดจำนวนมาก และเสื้อผ้าทั้ง 2 คน สวมใส่วันเกิดเหตุ จับกุมได้ที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 64 แยก 8 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม เมื่อกลางดึกวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก นาง อมรัตน์ ผู้พัฒน์ อายุ 67 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 37 ซอยลาดพร้าว 64 แยก 8 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. เจ้าของอพาร์ตเมนต์ ซอยลาดพร้าว 64 แยก 7 แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง ว่าบ้านพักเลขที่ 37 ไม่มีผู้พักอาศัย 3-4 ปี ครอบครัว ย้ายมาอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ มีคนร้ายเข้าไปลักพระพุทธรูป,พระเครื่องและของมีค่าอื่นๆรวม 4 ครั้ง รวมมูลค่าหลายแสนบาท แจ้งความ สน.วังทองหลาง ครั้งแรกเมื่อปี 62 จากนั้นคนร้ายย่องไปงัดประตูบ้าน เข้าไปลักทรัพย์เรื่อยมา จนเหตุการณ์ล่าสุด วันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา มีคนร้ายชาย-หญิง ปีนประตูรั้วศักดิ์สิทธิ์อัลลอย เข้าไปลักทรัพย์และปีนประตูรั้วออกมา มีชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ ใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิปเข้าไปพูดคุยกับคนร้ายว่าเข้าไปลักเอาของได้อย่างไร 2 คนร้ายตอบว่าแค่ไปเอาของเล็กๆน้อยเช่นเศษเหล็ก เอาไปขาย ต่อมาภาพเหตุการณ์คนร้ายปีนรั้วถูกเผยแพร่สื่อโซเชียล ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจำนวนมาก
นายกิตติพงษ์ให้การว่า ตนอดีตทำงานเป็นรปภ. ขณะนี้ตกงานส่วนภรรยาไม่ทำงาน ยอมรับก่อเหตุจริงพร้อมภรรยา เพราะเห็นว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ ปีนข้ามประตูรั้วเข้าไปภายในบ้าน ก่อนรื้อค้นทรัพย์สิน แต่ในเวลากลางคืนไม่สามารถนำออกมาได้ ทิ้งไว้ก่อนจะออกจากบ้าน จนกระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นได้ชวนภรรยาปีนรั้วกลับเข้าไปอีก สิ่งเพื่อนำทรัพย์สินที่เก็บใส่ถุงกระสอบไว้ออกมาด้านนอก โดยนำไปขายให้กับรถซาเล้งที่รับซื้อของเก่า ยืนยันว่าการก่อเหตุครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนครั้งอื่นๆที่ปรากฏเป็นข่าวปฏิเสธว่าไม่ใช่ตน
พ.ต.อ.สิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ รอง ผบก.น.4 กล่าวว่า สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ได้ที่ห้องเช่าตรวจค้นพบเสื้อผ้า รองเท้า ที่ใส่ในวันที่ก่อเหตุรวมทั้งพระพุทธรูปหนึ่ง 1องค์ และแว่นตากันแดดจำนวนมาก เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าทรัพย์สินที่ได้นำไปขายให้รถซาเล้ง ได้เงินมาจำนวน 1,100 บาท ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบว่าประวัติของนายกิตติพงษ์ ผู้ต้องหาอดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมทั้งพักอาศัยอยู่ภายในซอยดังกล่าว น่าเชื่อว่าการก่อเหตุแต่ละครั้งมีการมาดูลาดเลาก่อนลงมือ และในกรณีอื่นๆน่าเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล
ด้าน พ.ต.อ.กันตภณ โพธิ์อ๊ะผกก.สน.วังทองหลาง กล่าวว่า นายกิตติพงษ์ ผู้ต้องหามาสมัครงานเป็น รปภ.บริษัทแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 64 แต่บริษัทยังไม่รับเป็นพนักงาน สองผัวเมียใช้เส้นทางผ่านบ้านก่อเหตุดังกล่าว เห็นว่าไม่เปิดไฟ ปล่อยให้รกร้างปิดเงียบ สบโอกาสเข้าไปยกเค้าได้ง่าย โดยซอยดังกล่าวเป็นซอยเปลี่ยว ไม่มีไฟส่องสว่าง ไม่มีสายตรวจในพื้นที่ ยืนยันว่า เส้นทางนี้มีซอยเชื่อมระหว่างลาดพร้าว 48 และลาดพร้าว 64 ตำรวจวางจุดตรวจแบบสแกน แทนตู้แดงไว้ที่แยก 12 ส่วนแยก 2 แยก 4 และแยก 6 ใช้จุดตรวจตู้แดง โดยมีสายตรวจเข้าออกทุก 8 ชั่วโมง และบางครั้งเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ อยากให้ประชาชนเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเรื่องการป้องกันเหตุ
////////////////