
หนุ่มอิสราเอล หอบลูกสาว เข้าร้อง “ทนายตั้ม” กรณีภรรยาคนไทย ปันใจให้ ทหารยศร้อยโท ทำให้ถูกยิงปืนใส่ แต่เคราะห์ดีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
นายรูดี้ บาฮาร์ หนุ่มใหญ่ อายุ 53 ปี ชาวอิสราเอล พร้อมบุตรสาว คนที่ 3 อายุ 15 ปี เขาร้องทนายสิทธาเบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ขอความเป็นธรรม กรณีพนักงานสอบสวนสภ.สว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความคดีกับทหารยศร้อยโทนายหนึ่ง ที่ก่อเหตุยิงปืนใส่แต่คดีไม่คืบ หนำซ้ำล่ามที่พาไปแจ้งความกลับ มีการแปลงข้อมูลว่า นายรูดี้ ผู้เสียหาย ไม่ติดใจเอาความ ทั้งที่ความจริงต้องการให้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
โดยบุตรสาว เล่าทั้งน้ำตาว่า บิดาคบหา และจดทะเบียนอยู่กินกับมารดาเมื่อปี 2011 ระหว่างที่บิดาเปิดร้านจักรยานยนต์อยู่ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี จากนั้นเมื่อ 3 4 ปีก่อน มารดาได้ชักชวนให้บิดาไปลงทุนทำธุรกิจร้านกาแฟที่อำเภอสว่างแดนดินจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของมารดา โดยใช้เงินลงทุนทำร้านกาแฟประมาณ 2 ล้านบาท
แต่เหตุการณ์กลับยุ่งยากขึ้น เนื่องจากหมู่บ้านที่จะเปิดร้านกาแฟมีการทำถนนใหม่ โดยมีนายทหารยศร้อยโท เข้ามาคุมงานและได้รู้จักกับมารดาจึงมีการสานสัมพันธ์กันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งบิดาและลูกๆทั้ง 5 คนซึ่งเป็นลูกชาย 3 คนและหญิง 2 คนทราบเรื่องดี แต่ไม่มีใครอยากพูด เนื่องจากสงสารบิดา และกลัวครอบครัวแตกแยก
ทั้งนี้ เหตุการณ์พีคสุดในวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นวันเปิดร้านกาแฟของครอบครัวปรากฏว่านายทหารยศร้อยโทได้เข้ามาในพื้นที่ซึ่งบิดาทราบเรื่องจึงไปเชิญให้กลับและเดินไปส่งที่รถ ปรากฏว่าสร้างความไม่พอใจและทหารยศร้อยโทคนดังกล่าวคาดว่าอยู่ในอาหารมึนเมา ได้ชักอาวุธปืนออกมายิงลงพื้น 4 นัดและยิงบิดา 5 นัดซ้อน เคราะห์ดี กระสุนไม่ถูกบิดาและลูกๆ และแขกที่อยู่ในเหตุการณ์
หลังเกิดเหตุบิดาได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.สว่างแดนดิน เพื่อให้ดำเนินคดีกับทหายศร้อยโทคนดังกล่าวให้ถึงที่สุด แต่ปรากฏว่าล่ามที่ไปโรงพักด้วย กลับมีการแปลงข้อมูลคำให้การว่า บิดาไม่ประสงค์หรือติดใจเอาความกลับคู่กรณี ซึ่งมาทราบเรื่องในภายหลัง
วันนี้ (6 ต.ค ) บิดาและตนในฐานะบุตรสาวคนที่ 3 จึงเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายษิทาเนื่องจากทนพฤติกรรมของคู่กรณีบิดาไม่ไหวพร้อมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่ยังมาติดพันกับมารดาเพราะประสงค์เรื่องเงิน เนื่องจากในช่วงที่ทำร้านกาแฟ ทหารยศร้อยโทคนดังกล่าวเข้ามามีบทบาทช่วยดำเนินการหลายอย่างแทนมารดาซึ่งไว้ใจโอนเงินให้ซื้อข้าวของเข้าร้าน และยังเข้ามาทำหน้าที่เป็นคนดูแลร้านในช่วงที่บิดาไม่อยู่ อีกทั้งทางครอบครัวของคู่กรณี ซึ่งมีภรรยาเป็นครู และลูกเป็นทหาร ก็ทราบเรื่องดี แต่ทางไม่กล้าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับปัญหานี้
หลังเกิดเหตุบิดาได้พาลูกๆย้ายกลับมาอยู่บ้านที่พัทยา เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย และมีแนวคิดจะพาลูก ๆ กลับไปอยู่ประเทศอิสราเอลในอนาคตด้วย
ด้านทนายษิทา ระบุว่าพฤติการณ์ของทหารยศร้อยโทรายนี้เ ข้าข่ายความผิดข้อหา พยายามฆ่า // พกพาอาวุธปืน และบุกรุกยามวิกาล
ส่วนพนักงานสอบสวนที่รับแจ้งความเข้า อาจข่ายความผิดมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจะนำเรื่องเข้าร้องต่อผู้บังคับบัญชาเพื่อเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา สำหรับล่ามแปลภาษา อาจมีความผิดฐานแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ
โดยจะ พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีกครั้งในเร็วๆนี้
###///###