Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

รองโฆษกนครบาลเผย ส.ต.อ.ปัญญา อดีตตำรวจคลั่ง อาจพัวพันยาเสพติด พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต เตรียมหารือวางมาตรการเข้มงวดคัดกรองอาวุธปืน- ยาเสพติดตำรวจในสังกัด

รองโฆษกนครบาลเผย ส.ต.อ.ปัญญา อดีตตำรวจคลั่ง อาจพัวพันยาเสพติด สมัยดำรงตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานสืบสวน สน.ลุมพินี พบไม่สุงสิงเพื่อนร่วมงาน พร้อมแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต เตรียมหารือวางมาตรการเข้มงวดคัดกรองอาวุธปืน- ยาเสพติดตำรวจในสังกัด

เมื่อเวลา11.00 น.วันที่ 7 ต.ค.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น.ในฐานะรองโฆษกนครบาล กล่าวถึงกรณีส.ต.อ.ปัญญา คำราบ อดีตตำรวจผู้ก่อเหตุ คดีกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต รวม 37 ราย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อญาติผู้เสียชีวิต ในเหตุการณ์กราดยิงในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภูซึ่งจากการตรวจสอบผู้ก่อเหตุ เคยรับราชการตำรวจในสังกัดนครบาลโดยปฏิบัติหน้าที่วันที่ 1 พ.ย.56 ทำงานที่ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ยานนาวา ย้ายไปที่สน.ลุมพินีฝ่ายสืบสวน วันที่ 24 ก.ค.60 ก่อนย้ายกลับไปภูมิลำเนา ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป.สภ.นาวังวันที่ 10 ก.ค.62 ทั้งนี้ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ อยู่ในสังกัดนครบาลมีรายงานว่า ส.ต.อ.ปัญญา คำราบ มีพฤติกรรมเก็บตัวและไม่สุงสิงกับเพื่อนร่วมงาน และจากรายงานการขอย้ายกับภูมิลำเนานั้น พบว่า ไม่ถนัดในการใช้งานคอมพิวเตอร์ และการปฏิบัติงานในภาพรวมไม่มีความโดดเด่น และพบว่ามีนิสัยชอบเล่นปืน

ส่วน ประเด็นเกี่ยวกับยาเสพติด คาดว่าสิบตำรวจเอกปัญญานั้นอาจจะเคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด มาก่อนรับราชการตำรวจ และเมื่อมาปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน ซึ่งมีความใกล้ชิดกับยาเสพติด ทำให้กลับมาอยู่ในวงจรของยาเสพติดได้ ส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้มีงานเกี่ยวข้องในการเข้าถึงประชาชน

พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางการป้องกันของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น ตามปกติ จะมีการตรวจหาสารเสพติด ผู้ใต้บังคับบัญชา ในแต่ละโรงพัก ตามวงรอบ ของแต่ละโรงพักที่กำหนด โดยสถิติตั้งแต่ปี พ.ศ 2563-2565 ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ ไล่ข้าราชการตำรวจในสังกัด บช.น.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด หรือเสพยาเสพติดออกจากราชการจำนวนทั้งสิ้น 7 ราย

ส่วนเรื่องของอาวุธปืน ของข้าราชการตำรวจนครบาลจะมีการนำเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อให้ตรวจสอบการครอบครอง รวมทั้งการเซ็นใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืน จะให้ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัด เป็นผู้ตรวจสอบประวัติของผู้ที่ขออนุญาตครอบครองทั้งหมด หากพบว่า ข้าราชการตำรวจที่มีประวัติ ถูกไล่ออกจากราชการ หรือมีความผิดอื่นๆ จะให้พิจารณาเป็นรายบุคคล ส่วนข้าราชการตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการไปแล้วจะทำการยึดใบอนุญาต พร้อมทั้งทำประวัติเป็นบุคคลเฝ้าระวัง

สำหรับแนวทางป้องกัน หากเกิดเหตุขึ้น ทางตำรวจนครบาลเป็นพื้นที่แคบ มีตรอกซอกซอยเยอะ รวมถึงการจราจรที่หนาแน่น จึงใช้สายตรวจเคลื่อนที่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ในการเข้า ระงับเหตุในพื้นที่เป็นชุดแรก และจึงจะวางยุทธวิธีในการ ควบคุมสถานการณ์ เชื่อว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลสามารถควบคุมเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ 100 เปอร์เซ็น

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สร้างความเสทือนใจให้กับประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยอมรับว่าผู้ก่อเหตุ เคยเป็น ข้าราชการตำรวจ และยังสังกัด ในกองบัญชาการตำรวจนครบาล รู้สึกเสียใจ ที่ผู้ก่อเหตุนำวิธีการปฏิบัติไปใช้ในทางที่ผิด

ทั้งนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีมาตรการในการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดทั้ง88 โรงพักรวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างมาตรฐาน เพื่อขอให้ประชาชนมั่นใจ ใน ข้าราชการตำรวจที่จะออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

/////////////////

 

Total
0
Shares
Previous Article

รวบไรเดอร์แสบ แอบลักของตามหอพัก

Next Article

รวบหนุ่มสเก็ตเลือดร้อนใช้สเก็ตบอร์ดไล่ตีศีรษะนักท่องเที่ยวชาวแคนาดา

Related Posts

โปรดเกล้าฯพ.ร.ฎ.พระราชทานอภัยโทษให้โอกาสผู้ต้องราชทัณฑ์กลับตัวเป็นคนดี