

บุกช่วยเหลือหญิงชราถูกลูกชายคลั่งยาทำร้าย ย่านสายไหม
วันนี้ (21 ต.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมคณะ และ พ.ต.อ.อำนาจ กาหลง ผกก.สน.สายไหม , เจ้าหน้าที่ ศูนย์บริการ สาธารณสุข 61 และ เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ ได้เดินทางเข้าให้การช่วยเหลือ นางน้อย(นามสมมุติ) อายุ 59 ปี ที่ถูกลูกชายทำร้ายร่างกายจนชาวบ้านทนไม่ได้ถ่ายคลิปวิดีโอ ร้องขอความช่วยเหลือผ่านเพจ “สายไหมต้องรอด” เหตุเกิดภายในชุมชนวัดเกาะ ซ.พหลโยธิน 54/1 แยก 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ
นายเอกภพ กล่าวว่า ทางเพจสายไหมต้องรอดได้รับแจ้งจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าว พร้อมหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอการทำร้ายร่างกาย โดยเบื้องต้นทราบว่าบุคคลที่ปรากฎในคลิปเป็นแม่ลูกกัน โดยลูกชายมักจะเอะอะโวยวาย และชอบทำร้ายร่างกายแม่เป็นประจำ เมื่อผู้เป็นแม่ออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านก็ไม่มีใครกล้าช่วย เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย จึงได้เดินทางมาพร้อมกับตำรวจ สน.สายไหม และ พม. เพื่อตรวจสอบ และให้การช่วยเหลือ
ด้านนางน้อย เปิดเผยว่า พักอาศัยอยู่กับลูกชาย 2 คน คนโตอายุ 37 ปี และคนเล็ก อายุ 33 ปี ซึ่งบุคคลที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ เป็นลูกชายคนโตที่เพิ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาหลายเดือนแล้ว หลังจากที่ติดคุกมานานกว่า 6 ปี ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีปากเสียงหรือทำร้ายร่างกาย แต่เมื่อออกจากคุกมาได้ไม่นานก็มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป มักจะโวยวาย ทำลายข้าวของภายในบ้าน ทุบตีแม่ หนักสุดคือการฉุดกระชากลากถูก จนได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกที่สะโพก จึงอยากให้หน่วยงานเข้าช่วยเหลือ เพราะตนมีเพียงแค่ลูกชายเท่านั้น หากไม่มีลูกก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะต้องเช่าบ้าน และมีค่าใช้จ่ายประจำวันอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเพื่อนบ้านในละแวกดังกล่าว ทราบว่า บ้านหลังนี้มักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ ซึ่งลูกชายจะทำร้ายร่างกายแม่จนเป็นที่น่าเวทนาของผู้พบเห็น แต่ทางผู้เป็นแม่เองก็ชอบดื่มสุราอยู่บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็จะทะเลาะกับลูก จนชาวบ้านไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะต่างฝ่ายต่างอยู่ในอาการมึนเมาทั้งคู่ รวมถึงฝ่ายลูกชายก็เคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านมาแล้วในเรื่องของสุนัขที่ชอบมาถ่ายของเสียที่หน้าบ้าน นอกจากนี้ชาวบ้านยังระบุว่าภายในซอยดังกล่าว มีปัญหายาเสพติดเกิดขึ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ
ด้านนายเอ (นามสมมุติ) ลูกชายคนโต เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายแม่ มีแค่ครั้งที่ปรากฎในคลิปวิดีโอเท่านั้น สาเหตุมาจากที่แม่ชอบเมาเหล้าและไม่ยอมกลับบ้าน จึงไปตามหา เมื่อพบจึงได้กระชากพาตัวพาแม่กลับบ้าน ถ้าไม่รักแม่ก็คงไม่ไปพากลับบ้านแบบนั้น และขอโทษหากกระทำการที่รุนแรง
นายบี (นามสมมุติ) ลูกชายคนเล็ก กล่าวว่า ตนไม่เคยทุบตีแม่ และมักจะบอกพี่ชายไม่ให้ทำร้ายร่างกายแม่ด้วย อย่างไรก็ตาม แม่มักจะมีพฤติกรรมชอบเมาสุรานอกบ้านเป็นประจำ จึงต้องไปพาตัวแม่กลับมา รวมถึงเวลาเมาสุราแม่จะพูดจาไม่ดี ไม่เหมือนกับเวลาปกติแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.อำนาจ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำในเบื้องต้นพบว่าเป็นปัญหาภายในครอบครัว โดยทั้งสองฝ่ายให้การยังไม่สอดคล้องกัน ทั้งพฤติกรรมของลูกชาย และพฤติกรรมของแม่ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจจะสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง และหลังจากนี้จะคุมตัวนายเอ และ นายบี ไปตรวจหาสารเสพติดที่โรงพัก และ สอบปากคำต่อไป ส่วนปัญหายาเสพติดในพื้นที่นั้น ทางตำรวจ สน.สายไหมมีการกวดขันจับกุมเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งหากประชาชนแจ้งเบาะแสเพิ่มทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมดำเนินการทันที
ด้านเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการเข้าช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมมอบเงินช่วยเหลือกับนางน้อย รวมถึงคอยดูแลสภาพจิตใจ ส่วนพฤติกรรมของลูกชานหากพบว่ามีการใช้สารเสพติดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะเข้าพูดคุยอีกครั้ง รวมถึงพฤติกรรมของผู้เป็นแม่เรื่องการดื่มสุรา จะให้เจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม พร้อมติดตามความคืบหน้าเป็นระยะอีกด้วย