191บุกจับหนุ่มมลักลอบผลิตเหล้านอกปลอมจำหน่ายย่านมีนบุรีพร้อมของกลางจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 27 ต.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว รอง ผบช.น.สั่งการให้พล.ต.ต.ภาณพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พ.ต.อ.ชัยกฤติ โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ พ.ต.ท.คงศักดิ์ ศรีโหร รอง ผกก.สายตรวจ, พ.ต.ท.ไพบูลย์ สอโส สว.งานสายตรวจ 1 นำกำลังเข้าตรวจค้นตามหมายศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.715/2565 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 25665 ภายในบ้านเลขที่ 76 ซอยหทัยราษฎร์ 3 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมจับกุม นายชาน (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี สัญชาติมาเลเซีย จากการตรวจค้นพบของกลางเป็น แสตมป์ Duty free มาเลเซียจำนวน 4,000 ดวง,สุราต่างประเทศ Walton จำนวน 8 ลัง เป็นจำนวน 96 ขวด,สุราต่างประเทศ KingRobert จำนวน 20 ลัง เป็นจำนวน 240 ขวด และสติ๊กเกอร์สุราและไวน์หลายยี่ห้อ รวมถึงอุปกรณ์จุกก๊อกไวน์-ฝาสุราและอื่นๆอีกหลายรายการ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 1 กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ สืบทราบว่ามีชายชาวมาเลย์นำสุราต่างประเทศ นำเข้าโดยไม่มีการผ่านภาษี และผลิตสุราต่างประเทศปลอม รวมถึงมีการปลอมแปลงแสตมป์ภาษีอากรและฉลากไวน์ ยี่ห้อต่างๆ เพื่อนำไปจำหน่าย ตามสถานบริการต่างๆ ในพื้นที่มีนบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติศาลเพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบจนพบของกลางโดยมีนายชาน(ผู้ต้องหา) เป็นชาวมาเลเซีย ซึ่งมีพฤติกรรมรับซื้อลังสุรา ต่างประเทศ เก่า จากร้านรีไซเคิลขยะ และจะนำมา กรอกสุราต่างประเทศพร้อมติดอากรแสตมป์ใหม่ ก่อนจะบรรจุเข้าไปภายในลังสุรา โดยจะทำตามยอดการสั่งซื้อของลูกค้า
จากการสอบสวนนายชาน(ผู้ต้องหา) ให้การว่า ใช้สุราต่างประเทศในราคา 3,200 บาทและจำหน่ายให้กับลูกค้าในราคา 7,500 บาท โดยจะมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 150,000-200,000 บาท โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปี จากการตรวจสอบประวัติพบว่านายชาญเคยถูกจับกุม เมื่อปี 2562 พร้อมของกลางกว่า 600,000 บาท
เบื้องต้นจึงแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา “มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้า (สุรา) ที่ไม่ได้เสียภาษี (พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 ม.203 (1) ,มีไว้เพื่อขายซึ่งสินค้า (สุรา) ที่ไม่ได้เสียภาษี (พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 ม.204 (1),ลักลอบ ผลิต ซุกซ่อน มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมและ/หรือเลียน เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นที่จดทะเบียนไว้แล้วในราชอาณาจักร” ก่อนนำตัวไปขยายผลและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
////
