Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

ปปป.แถลงจับ อธิบดีกรมอุทยาน เรียกรับสินบน

แถลงจับ อธิบดีกรมอุทยาน เรียกรับสินบน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นำกำลังเข้าจับกุมตัว นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช ในความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงานสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งโดย ไม่ชอบด้วยหน้าที่ และ เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบโดยทุจริต” ขณะกำลังเรียกรับเงินสินบนอยู่ภายในห้องทำงาน อาคารสืบนาคะเสถียร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร พร้อมกับตรวจยึดเงินสดของกลางจำนวนกว่า 5 ล้านบาท

ต่อมาเวลา 14.00 น. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารประชาอารักษ์ ที่ทำการกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ร่วมกันแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว

นายนิวัติไชย กล่าวว่า  สำหรับการจับกุมคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติฯ เข้ามาร้องเรียนกับป.ป.ช. ว่า นายรัชฎา ผู้ต้องหารายนี้ได้มีพฤติกรรมเรียกรับเงินสินบนรายเดือน เพื่อแลกกับการดำรงตำแหน่งเดิม หรือโยกย้ายไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกโยกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ทางป.ป.ช. จึงร่วมกับ ตำรวจ บก.ปปป. สืบสวนจนพบว่ามีมูลความจริง จึงวางแผนให้ผู้เสียหายนำเงินจำนวน 98,000 บาท ใส่ซองไปมอบให้นายรัชฎา เมื่อช่วงเวลา 09.10 น. ของวันนี้ ซึ่งเรามีหลักฐานเป็นซองเงินอยู่บนโต๊ะและคลิปบันทึกเสียงการเจรจารับเงินสินเงินดังกล่าว ก่อนนำกำลังเข้าจับกุมตัว จากนั้นจึงทำการตรวจค้นภายในห้องทำงานอย่างละเอียดกระทั่งพบเงินสดอีกจำนวน 4.9 ล้านบาท ถูกเก็บไว้ภายในตู้เซฟ อย่างไรก็จากเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่ายังมีข้าราชการที่ถูกบังคับให้ยอมส่งส่วยอีกหลายคน หลังจากนี้จะเร่งขยายผลตรวจสอบต่อไป
       
นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า ในส่วนการชี้มูลความผิดจะทันระยะเวลาการฝากขังหรือไม่นั้น อยากชี้แจงมนส่วนนี้ว่า พนักงานสอบสวนมีอำนาจทำการสอบสวนตามกฏหมายป.วิอาญา แต่ถ้าปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิดโดยการทุจริตต่อหน้าที่ ก็จะเป็นอำนาจของคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เมื่อมีผู้มาร้องทุกข์ กล่าวโทษพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน ให้ชัดเจนว่าเข้าองค์ประกอบการกระทำความผิด และส่งสำนวนไปยัง ปปช.ภายใน 30 วัน เเต่ตรงนี้เป็นเพียงขั้นตอนที่เร่งรัด เพราะว่าอาจจะมีการขยายผลไปอีกก็ได้ ส่วนกรณีการประกันตัวก็จะอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ถ้าไม่อนุญาตให้ประกันตัวก็จะต้องส่งสำนวนพร้อมตัวให้ ป.ป.ช. ดำเนินการ ส่วนอำนาจการควบคุมตัวก็จะอยู่ที่ ป.ป.ช. เรื่องนี้ถ้าพยานหลักฐานชัดเราก็จะสามารถเร่งดำเนินการได้ภายใต้กรอบระยะเวลาฝากขัง

 ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้อง นายรัชฎา ให้การภาคเสธ ว่า รับซองมาจริงแต่ไม่ทราบว่าภายในมีเงินสด เพราะยังไม่ได้แกะซอง ส่วนเงินในตู้เซฟยังไม่ได้ชี้แจงถึงที่มาของเงิน
ซึ่งตำรวจจะขยายผลตรวจสอบ โดยมั่นใจว่ามีหลักฐานเอาผิดได้แน่นอน
      
ขณะที่ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. ฝากถึงข้าราชการทุกคนอย่าไปทนและยอมปฏิบัติตามผู้บังคับบัญชาที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ข้าราชการที่ออกมาร้องเรียนในวันนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี หากพบหรือทราบเบาะแสสามารถร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยแก้ปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแผนปฏิบัติการเปิดโปงการคดีดังกล่าว เริ่มขึ้นหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อแจ้งเอาผิด นายรัชฎา หลังพบว่า นายรัชฎา มีพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่ในทางไม่เหมาะสม กลั่นแกล้งโยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่ที่ไม่ยอมจ่ายเงินวิ่งเต้น ไปยังตำแหน่งอื่นๆ ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนาหรือที่พักอาศัย เพื่อบีบให้ต้องยอมจ่ายเงินวิ่งเต้นตั้งแต่ 500,000 – 1,000,000 บาท อีกทั้งยังมีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนาม คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติ, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า จะเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย, หน่วยป้องกันไฟป่า 30 เปอร์เซ็นต์ จากหมวดงบดำเนินงาน และ ค่าใช้สอย หลังรับเรื่องจึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาตรวจสอบข้อเท็จจริงนำมาสู่การจับกุมตัวดังกล่าว

จากแนวทางสืบสวนยังเชื่อว่า ที่ผ่านมาน่าจะมีเข้าหน้าที่ข้าราชการที่อยู่ในสังกัดยอมจ่ายเงินให้กับนายรัชฎาจำนวนหลายราย เพื่อแลกกับการรักษาตำแหน่งตนเองไว้ เนื่องจากมีครอบครัว ซึ่งถูกย้ายครั้งหนึ่งก็จะทำให้ต้องโยกย้ายครอบครัวตามไปด้วย ทำให้เดือดร้อน และถึงแม้จะยอมจ่ายเงินค่าวิ่งเต้นเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็ต้องจำยอมจ่ายเงินรายเดือนให้อีกด้วย

Total
0
Shares
Previous Article

นักธุรกิจสาวแจ้ง ปคบ. ถูกเต็นท์หลอกขายรถบีเอ็ม

Next Article

กรมศุลกากรตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 MDMA (เอ็กซ์ตาซี่)<br>น้ำหนัก 3.01 กิโลกรัม ซุกซ่อนมากับสินค้าทางพัสดุไปรษณีย์ มูลค่า 18 ล้านบาท

Related Posts