Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

ตำรวจสอบสวนกลางรวบผู้บริหารนอมินีบริษัทเอกชน ไม่จัดทำและไม่นำส่งงบการเงินประจำปี โทษปรับกว่าล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลางรวบผู้บริหารนอมินีบริษัทเอกชน ไม่จัดทำและไม่นำส่งงบการเงินประจำปี โทษปรับกว่าล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล รอง ผบก.บก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาพ ยั่งยืน ผกก.กก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว, พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.วรพจน์ ลลิตจิรกุล สว.กก.3 บก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุมตัวนายอรรถวัต (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 344/2566 ลงวันที่ 2 ก.พ.66 ความผิดฐาน “ร่วมกันไม่จัดทำและไม่นำส่งงบการเงินประจำปี และไม่จัดทำและนำส่งรายงานประจำปี” โดยจับกุมได้บริเวณคอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. ได้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า นายอรรถวัตฯ ซึ่งมีฐานะเป็นกรรมการของบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีหน้าที่สั่งการหรือกระทำการให้บริษัทดังกล่าวต้องจัดทำงบการเงินและนำส่งรายงานทางการเงินต่อสำนักงาน ก.ล.ต. แต่ทางผู้ต้องหาไม่ได้จัดทำ และนำส่งรายงานดังกล่าว เป็นเหตุให้บริษัทดังกล่าวได้ทำการฝ่าฝืนข้อบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขเป็นระยะเวลาหลายเดือน ซึ่งมีโทษปรับมูลค่ารวมกว่า 1.8 ล้านบาท ซึ่งทางพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. ได้มีการออกหมายเรียกไปยังผู้ต้องหาถึง 2 ครั้ง แต่ผู้ต้องหาไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เป็นเหตุให้มีการยื่นคำร้องขอออกหมายจับผู้ต้องหาเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้อาศัยอยู่ที่คอนโดแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่เข้าตรวจสอบ พบตัวผู้ต้องหาอยู่ที่คอนโดดังกล่าวจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจากการตรวจสอบยังพบว่า นายอรรถวัตฯ เป็นพนักงานบริษัท ของบริษัทดังกล่าว ถูกชักชวนและลวงให้มาเป็นกรรมการบริษัท โดยให้สัญญาว่าจะรับผลประโยชน์มากขึ้น โดยไม่ต้องทำงาน เสมือนเป็นผู้บริหารในนามนอมินี ซึ่งผู้ต้องหาเชื่อผู้ที่มาชักชวน จึงได้เป็นกรรมการบริษัท จำกัด (มหาชน)โดยไม่ได้บริหารงานจริง ผู้ต้องหาจึงไม่ได้ไปทำงานและไม่ทราบหน้าที่ในการบริหารของบริษัท เป็นเหตุให้บริษัทได้ทำการฝ่าฝืนข้อบังคับตามกฎหมาย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ซึ่งมีโทษปรับรายวันและปัจจุบันได้ตรวจสอบแล้วพบว่าบริษัทฯ ยังฝ่าฝืน และยังไม่ได้ดำเนินการเป็นเวลาหลายเดือนซึ่งมีโทษปรับมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางากเตือนภัย หากมีผู้ใดมาชักชวนเป็นกรรมการบริษัทหรือผู้มีอำนาจลงนาม ควรศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องและขอย้ำเตือนว่า บริษัทมหาชนมีหน้าที่ต้องจัดทำและนำส่งงบการเงินและรายงานประจำปี ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. โดยให้ปฏิบัติตรงตามระยะเวลาที่กำหนด หากเพิกเฉยถือเป็นความผิดทางอาญา ทั้งบริษัทหรือผู้ประกอบกิจการในนามนิติบุคคลและบุคคลทั่วไป

Total
0
Shares
Previous Article

มูลนิธิ วินวิน ช่วยเหลือ ชายพิการ ร่างกายเหลือแค่ ท่อนบน จากอุบัติเหตุ ที่ผ่านมา 20 ปี

Next Article

เสี่ยอู่ซ่อมรถเบนซ์พร้อมเพื่อนร้องสื่อถูกว่าที่ผู้สมัคร สจ. พร้อมลูกน้องนับ 10 คนรุมทำร้ายในร้านอาหาร

Related Posts