
รปภ.โหดยอมเปิดปากรับสารภาพแล้ว ว่าก่อเหตุทำร้ายเมียตนเอง ทั้งตบแล้วเตะ พร้อมระบุไม่มีเจตนาทำร้ายถึงแก่ชีวิต ขอโทษทุกอย่างที่ทำยังรักเมียตัวเองมาก
ตำรวจ สน.หนองค้างพลู ได้คุมตัวนายมนตรี ขำขจร หรือบอย อายุ 41 ปี อาชีพ รปภ.ซึ่งเป็นผู้ต้องสัยว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุทำร้าย น.ส.ปัญจทร กรัตสุวรรณ หรือ อุ่น อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานโรงงานผลิตบานพับประตู ภรรยาของตัวเองจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ซอยทวีวัฒนา 1 ออกมาจากห้องขังเพื่อคุมตัวมาสอบสวนเพิ่ม / ตลอดช่วงดึกที่ผ่านมา นายมนตรีถูกสอบปากคำตลอดทั้งคืน ยังคงให้การภาคเสธว่ามีการทำร้ายจริง แต่ไม่ถึงขั้นทำให้ภรรยาเสียชีวิต
โดยวันนี้ตำรวจเค้นสอบปากคำอีกครั้ง จนกระทั่งนายบอยยอมรับว่า เป็นคนทำร้ายภรรยาจนเสียชีวิต ซึ่งก่อเหตุทำร้ายวันที่ 5 มีนาคม เพราะตนเองมีปากเสียงกับภรรยา ก่อนจะทำร้ายร่างกาย ด้วยการ ตบ และ เตะ พร้อมกับ พลักตัวภรรยาลงพื้นจนศรีษะกระแทก และเอาเท้าเหยียบไปที่คอ / แต่ตอนนั้นภรรยาบาดเจ็บแต่ไม่ได้สลบ / หลังทำร้ายร่างกายเสร็จตนก็ออกจากบ้านพักไปดื่มเหล้ากับเพื่อน / ยอมรับว่าตอนนั้นไม่ได้สำนึกกับสิ่งที่ก่อเหตุ เพราะไม่คิดว่าภรรยาจะถึงขั้นเสียชีวิต
จนกระทั่งวันต่อมา 6 มีนาคม ตนเองเห็นภรรยาป่วยเพราะบอบช้ำจากตนทำร้ายร่างกาย จึงบอกภรรยาให้ไปหาหมอรักษาอาการแต่ภรรยาปฏิเสธ / ซึ่งท่าทีของภรรยาทำห่างเหินจากตน ไม่มาใกล้ตน และไม่นอนด้วยกับตน / จนวันที่ 8 มีนาคม ตนเองกลับมาบ้านพักพบภรรยานอนฟุบข้างบ้าน จึงอุ้มภรรยามานอนในบ้านพัก
และได้โทรเรียกกู้ภัยมารับเพื่อนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล / หลังจากโทร เรียกรถพยาบาลแล้ว ตนเองก็ออกไปดื่มเหล้ากับเพื่อนนอกบ้าน / จนกระทั่ง ถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำ จึงรู้ว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว
ทีมข่าวสังเกตเห็นว่าระหว่างที่คนก่อเหตุถูกตำรวจสอบสวน มีสีหน้าเครียดและกังวลอย่างเห็นได้ชัด / โดยทีมข่าวได้มีโอกาสสอบถาม นายบอย ผู้ต้องหา เปิดเผยเพียงสั้นๆว่า ไม่ได้เจตนาที่จะทำร้ายเมียตนเอง พร้อมกับฝากขอโทษทุกอย่างที่ตนเองทำลงไป และระบุว่ายังรักภรรยามาก
ด้าน พ.ต.ท. วัชรพัฒน์ เรืองอัครนนท์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.หนองค้างพลู เปิดเผยว่า หลังสอบสวนคนก่อเหตุวันนี้ ยอมรับสารภาพว่าทำร้ายภรรยาจริงแต่คาดไม่ถึงว่าจะเสียชีวิต / จากนั้นภรรยามีอาการช้ำในและป่วย กระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 8 มีนาคม ซึ่งก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าและดื่มเหล้ามา / ซึ่งผลตรวจร่างกายพบมีสารเสพติด จึงแจ้งสองข้อหาคือ ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และเสพยาเสพติด และในวันพรุ่งนี้นี้จะคุมตัวฝากขังศาลอาญาตลิ่งชันต่อไป
ขณะที่ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา ย่า และ ญาติ ได้นำร่างของน.ส.ปัญจทร กรัตสุวรรณ หรือ อุ่น ที่ถูกสามีทำร้ายจนเสียชีวิต ขึ้นรถกะบะจากนิติเวชโรงพยาบาลศรีราช มาตั้งบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่วัดไผ่เลี้ยง ย่านหนองแขม ซึ่งบรรยากาศมีเพียงญาติสนิทไม่กี่คนร่วมในการจัดทำพิธี
ด้าน ย่า ของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ตนเองไม่รู้จักกับนายบอยสามีของผู้ตาย แต่เมื่อประมาณเดือนตุลาคมปีที่แล้ว หลานสาวของตนเองเคยถูกนายบอยทำร้ายร่างกายโดยการบีบคอจนอาการบาดเจ็บเกือบตายมาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งตนเองก็เคยเตือนหลานให้เลิกยุ่งกับนายบอยแล้วแต่หลานก็ไม่เชื่อฟัง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา ตนเองได้เจอหลานสาวแม่ครั้งสุดท้าย ก่อนที่หลานจะหายตัวไป ซึ่งตนเองเตรียมที่จะไปแจ้งคนหาย แต่เมื่อวานมีตำรวจมาแจ้งให้ตนเองทราบ ว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว
พร้อมระบุว่า ตนเอง รู้สึกสงสารหลานสาวและรับไปได้ที่ถูกทำร้ายจนบอกช้ำขนาดนี้ ส่วนเงินในการจัดงานศพตนเองก็คงจะไปกู้ยืมจากคนอื่นเพื่อมาดำเนินการไปก่อน แต่ยังไม่ได้กำหนดว่าจะฌาปนกิจศพในวันไหน
////////////


