


รวบ2 ผตห.รับจ้างเปิดบช.ม้า ตุ๋นเหยื่อทำภารกิจออเดอร์สินค้า เสียหายเฉียดล้าน
เมื่อวัน 9 มี.ค.พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3,,พ.ต.อ.คำภีร์ พรหมสนธิ รอง ผบก.สอท.3 สั่งการให้,พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3,
พ.ต.ท.ศราวุธ เดชศรี รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สอท.3 ,พ.ต.ท. นราภพ นวลเท่า สว.กก.วิเคราะห์ บก.สอท.3, นำกำลังจับกุมนายวิทยา พันธรรม อายุ 50 ปี และน.ส.ชรินทร์ สิงทะสิน อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของ ศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 33-34/2566 ลงวันที่ 20 มกราคม 2566 ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น , ร่วมกันเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ” โดยจับกุมได้ที่ จ.สระแก้ว
พล.ต.ต.สถิตย์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ ผ่านระบบแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ถูกคนร้ายหลอกให้ลงทุนทางออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น Shope 888 หรือ shope888 โดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูงขึ้น ซึ่งวิธีคือการลงทุนสั่งซื้อสินค้าผ่านการทำกิจกรรมต่างๆที่กำหนด ซึ่งช่วงแรกๆ ได้ผลตอบแทนคืนเล็กน้อย ต่อมาเมื่อลงทุนเยอะๆ ไม่สามารถถอนเงินออกจากระบบได้ และทางผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อได้อีก เชื่อว่าถูกหลอกลวง จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ คิดเป็นความเสียหาย 939,695 บาท
ต่อมาทางชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินไปยังบัญชีของน ส.ชรินทร์ สิงทะสิน และนายวิทยา พันธรรม จากนั้นได้กระจายไปยังบัญชีของบุคคลหนึ่ง จึงได้รวบรวมหลักฐานทำการออกหมายจับ ก่อนจะพบว่าทั้งสองได้มากบดานที่จ.สระแก้ว จึงนำกำลังจับกุม โดยจับกุมน ส.ชรินทร์ สิงทะสิน ได้ที่อ.วัฒนานคร และนายวิทยา พันธรรม จับกุมได้ที่อ.อรัญประเทศ อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนผู้ต้องหาให้รับว่ามีผู้ว่าจ้างให้เปิดบัญชี จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.3 เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.สถิตย์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมาพบผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพชักชวนหลอกลวงให้ทำงาน หรือทำภารกิจออนไลน์เพื่อหารายได้เสริมต่างๆ อาทิ การหลอกลวงให้กดไลก์ (Like) กดแชร์ (Share) ดูคลิปวิดีโอจากยูทูบ (YouTube) กดรับออร์เดอร์สินค้า หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่มิจฉาชีพออกอุบาย โดยการประกาศเชิญชวนโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok เป็นต้น หรือการส่งความสั้น (SMS) ไปยังเหยื่อโดยตรงให้กดลิงก์เพิ่มเพื่อนทางแอปพลิเคชันไลน์ แล้วเข้ากลุ่มทำงานที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นมา โดยในช่วงแรกจะได้เงินคืนมาเล็กน้อย แต่หลังจากนั้น มิจฉาชีพจะให้ทำภารกิจพิเศษ หลอกให้เหยื่อโอนเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระดับภารกิจ
ทั้งนี้ผู้เสียหายมักเสียดายเงินที่เคยโอนไปก่อนหน้านี้ อยากได้เงินทั้งหมดคืน ก็หลงเชื่อโอนเงินไปเพิ่มอีกหลายครั้ง มิจฉาชีพก็จะมีข้ออ้างต่างๆ เช่น อ้างว่าทำผิดขั้นตอน หรือยอดเงินในระบบไม่เพียงพอ เป็นค่าเอกสาร ค่าปิดบัญชี ค่าภาษี เป็นต้น นอกจากนี้ยังสร้างความน่าเชื่อถือโดยให้หน้าม้าในกลุ่มไลน์แสดงหลักฐานปลอมว่าตนได้รับเงินจริง กระทั่งเมื่อเหยื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกลวงก็จะปิดการติดต่อหลบหนีไป อย่างไรก็ตามเมื่อพบคำเชิญชวนให้ทำงานออนไลน์ ผ่านทางข้อความสั้น (SMS) หรือประกาศ โฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook, Instagram, Tiktok อย่าเข้าไปติดต่อสมัครทำงานเป็นอันขาด มักจะมีการแอบอ้างสัญลักษณ์ของหน่วยงาน หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องมาเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น Shopee, Lazada เป็นต้น หากมีข้อมูลสงสัยให้ปรึกษาสายด่วนของตำรวจไซเบอร์ ที่หมายเลข 1441 ได้ตลอด 24 ชม. ผบก.สอท.3 กล่าว