



สืบ2 จับไอซ์ล็อตใหญ่ก่อนทะลักเข้ากรุงส่งขายลูกค้าช่วงสงกรานต์
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 เม.ย. พล.ต.ท.สําราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศอ.ปส.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง. สวนทอง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น./หน.ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ศอ.ปส.ตร. ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 โดย พ.ต.อ.สุรพงค์ ธรรมพิทักษ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ทนงศิลป์ มณีโชติ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ศรีวงษ์ชัย รอง ผบก.น.2 ได้สั่งการให้พ.ต.อ.อัครพล โทยะ ผกก.กก.สส.บก.น.2 เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ศอ.ปส.ตร พ.ต.ท.เปรมศักดิ์ ทองอ่อน รอง ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.พร้อมพงษ์ เทพทัพทิม รอง ผกก.กก.สส.บก.น.2 พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา กก.สส.บก.น.2 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.2 ทำการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่จะอาศัยช่วงเทศกาลลำเลียงยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ บก.น.2 มาดำเนินคดี จนสามารถจับกุมตัวนายยงยุทธ์ บ้านเเสน อายุ 38 ปี นางสาวอทิตยา กิ่งมาลา อายุ 38 ปี และ นายมะลิ เเสงกล้า อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาวอุบลราชธานี
พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 145 กิโลกรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) จำนวน 52 เม็ด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 2 ซิม รถกระบะ ยี่ห้อมาสด้า รุ่น BT-50 สีดำ ติดป้ายทะเบียน ขษ 4160 สงขลา 1 คัน แผ่นป้ายทะเบียน 1กฎ 9365 กรุงเทพมหานคร จำนวน 2 แผ่น และกระเป๋าสะพายข้างสีดำ จำนวน 1 ใบ โดยจับกุมนายยงยุทธ์ และ นางสาวอทิตยา ได้ที่ ลานจอดรถใต้ห้างโลตัส นวนคร ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุมนายมะลิ ได้ที่ร้านลาบยโสออนซอน ถ.กาญจนาภิเษก ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 8 เมษายน เวลาประมาณ 09.00 น.ที่ผ่านมา
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานจากสายลับว่าจะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดที่พักอาศัยอยู่ที่จ.อุบลราชธานี ขนส่งยาเสพติดมาจากแนวชายแดนไปส่งที่พื้นที่เขตภาคกลาง และรอยต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อจำหน่ายให้ลูกค้าในช่วงสงกรานต์ โดยจะใช้รถกระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ทะเบียน 1กฎ 9365 กรุงเทพมหานคร ในการขนส่งยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวนหาข่าวและเฝ้าติดตามพฤติกรรมการใช้รถยนต์เป้าหมาย กระทั่งวันที่ 7-8 เมษายน พบรถเป้าหมายได้ขับไปยังแนวชายแดนประเทศลาวติดจังหวัดนครพนม จึงเชื่อน่าจะเป็นการนำรถยนต์ไปเตรียมขนส่งยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจัดกำลังติดตามรถยนต์เป้าหมายแต่กลับไม่พบรถกระบะ ทะเบียน 1กฎ 9365 กรุงเทพมหานคร ผ่านด่านตรวจ ต่อมาได้รับแจ้งว่ามีการเปลี่ยนป้ายทะเบียน เป็น ขษ 4160 สงขลา เจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนต่อจนพบรถกระบะ ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ทะเบียน ขษ 4160 สงขลา อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ลักษณะกำลังขับตามรถกระบะ ยี่ห้อ เอ็มจี สีแดง ติดแผ่นป้ายทะเบียน 3 ฒท 3793 กรุงเทพมหานคร กันมาเป็นขบวนอยู่บนถนนมิตรภาพมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่จึงแบ่งกำลังเป็น 2 ชุดเพื่อติดตามรถทั้ง 2 คัน
จนเวลาประมาณ 09.00 น. ของวันที่ 8 เม.ย. รถกระบะ มาสด้า สีดำ ทะเบียน ขษ 4160 สงขลา ได้ขับเลี้ยวจากเส้นวังน้อยเข้ามากรุงเทพ มุ่งหน้าตลาดไทย จากนั้นกลับรถบริเวณสะพานกลับรถวิ่งเข้าไปจอดรถใต้อาคารของห้างโลตัส นวนคร ปทุมธานี เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเข้าจับกุม พบนายยงยุทธ์ บ้านเเสน เป็นผู้ขับโดยมีนางสาว อทิตยา กิ่งมาลา นั่งโดยสาร ผลการตรวจค้นพบของกลางซุกซ่อนอยู่ในรถ
และ ในช่วงเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกส่วนที่ติดตามรถกระบะ เอ็มจี สีแดง ทะเบียน 3ฒท 3793 กทม. พบว่าได้ขับเข้าไปจอดที่ร้านลาบยโสออนซอน ถนนกาญจนาภิเษก ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นมีนายมะลิ ( ทราบชื่อภายหลัง) เดินลงมาจากรถฝั่งคนนั่งแล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร ส่วนคนขับยังอยู่ในรถ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมแต่คนขับไหวตัวทันขับรถหลบหนีไปได้ จับได้เพียงนายมะลิ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสามคนเบื้องต้นยอมรับว่าได้ร่วมกันลำเลียงยาเสพติดจากภาคอีสาน มาส่งให้กับลูกค้าที่จังหวัดปทุมธานี ก่อนสางต่อเข้าพื้นที่รอยต่อกรุงเทพฯ เพื่อให้ทันก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำมีคนขับรถนำทาง และจะมีรถขนยาเสพติดขับตาม หากทำสำเร็จก็จะได้ค่าจ้างครั้งละ 1 แสนบาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ก่อนมาถูกจับกุม และจากการตรวจสอบประวัตินายยงยุทธ์ บ้านแสน เคยถูกจำคุกในคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเพิ่งพ้นโทษออกมาจากเรือนจำกลาง จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อต้นปี 2563 แล้วกลับมาก่อดหตุอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวระบุว่าหากยาเสพติดล็อตนี้ถูกส่งถึงมือลูกค้าได้จะมีมูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันจำหน่าย ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาติ ส่วนนายยงยุทธ์ ถูกแจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์,ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ เพื่ออีก 1 ข้อหา ก่อนถูกนำพร้อมของกลางส่ง พนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีและขยายผลติดตามตัวผู้ร่วมขบวนการที่หลบหนีไปได้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป