Facebook Fanpage
Twitter Feed
ตระเวนข่าว ออนไลน์

อัปเดตทุกสถานการณ์อ่าน “ตระเวนข่าวออนไลน์”

อาชญากรรม การเมือง ต่างประเทศ กีฬา บันเทิง ภูมิภาค เศรษฐกิจ ไอที ข่าวอื่นๆ
เกี่ยวกับเรา

รมว.ดิจิทัลโบ้ยมือแฮกจ้อมูล 55 ล้านชื่อไม่เกี่ยวการเมืองตำรวจเข้าค้นบ้าน พร้อมนำฝากขังศาลทหาร

รมว.ดิจิทัลโบ้ยมือแฮกจ้อมูล 55 ล้านรายชื่อคนไทยไม่เกี่ยวารเมือง ด้านตำรวจเข้าค้นบ้าน พร้อมนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลทหารวันนี้


พลตำรวจตรีวรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า
จากการสอบปากคำผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ รวมทั้งพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ได้มานั้นมีความสอดคล้องกับคำให้การ เบื้องต้น ผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีความรู้ในด้านไอที และมีความสนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของตนเองอยู่ในเว็บไซต์ Bleach Forums ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่แฮ็คเกอร์นิยมใช้ซื้อขายแลกเปลี่ยนข้อมูลผิดกฎหมายหรือไม่ จึงเข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีข้อมูลของตนเองอยู่จริง จึงได้ติดต่อขอซื้อข้อมูลส่วนตัวคนไทยเพิ่มจากเว็บ จำนวน 8,000,000 เรคคอร์ด เป็นเงิน 8,000 บาท จากเว็บไซต์ดังกล่าว จากนั้นได้นำรายชื่อส่วนหนึ่งโพสต์ขึ้นโซเชียลมีเดียแต่ยังไม่ได้รับความสนใจ จึงได้นำข้อมูลส่วนตัวของคนมีชื่อเสียงโพสต์ลงในโซเชียลมีเดียและส่งข้อความไปหาเจ้าของข้อมูล จนเกิดเป็นกระแสขึ้นมา ทำให้รู้สึกตกใจจนต้องหลบหนีไปยังสถานที่ต่างๆเพียงคนเดียว ส่วนพื้นที่ก่อเหตุนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นยังบริเวณบ้านพัก และสถานที่อื่นๆที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดแล้ว


อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นการซื้อข้อมูลไม่ใช่การแฮ็กข้อมูล ซึ่งข้อมูลบางส่วนได้ถูกทำลายไปแล้ว และยังไม่ได้นำข้อมูลดังกล่าวไปจำหน่ายแต่อย่างใด ทั้งยังยืนยันว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคนไทยที่หลุดไป 55 รายชื่อนั้นไม่เป็นความจริง ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจำนวนข้อมูลที่รั่วไหลที่แท้จริง ขณะเดียวกันผู้ต้องหายืนยันว่าเป็นการกระทำเพียงคนเดียว และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภรรยาของผู้ต้องหาเป็นพยาบาล มีหน้าที่ดูแลคนไข้บนวอร์ด ไม่เกี่ยวข้องกับการดูแลระบบไอที หรือข้อมูลอื่น ๆ

นายชัยวุฒิ คมาธมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES ยืนยันว่า การกระทำผิดของผู้ต้องหาไม่ใช่การแฮ็กข้อมูล และเป็นการกระทำโดยตัวคนเดียว ซึ่งจากการตรวจสอบให้การรับสารภาพและเป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนจะมีคนอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจไซเบอร์ หากพบบุคคลที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น และไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง

ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐได้มีการสร้างระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพิ่งประกาศใช้ในปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย แต่ยอมรับว่าการมีข้อมูลรั่วไหลจากหน่วยงานรัฐในอดีตนั้นตนไม่ทราบรายละเอียด

Total
0
Shares
Previous Article

CIB ลุยถนนข้าวสาร แจกซองกันน้ำบรรจุยันต์เตือนภัย พร้อมร่าย 5 คาถาป้องกันโจรช่วง

Next Article

รอง.ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจโครงการฝากบ้าน ในซอยอมร พื้นที่สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมเชิญชวนประชาชนฝากบ้านกับตำรวจผ่าน 3 ช่องทาง

Related Posts

แม่ร้อง ผบช.น.หลังลูกชายวัย17ขี่จยย.ชนท้ายรถหกล้อคู่กรณีที่ไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยว ผ่าตัดสมอง2ครั้ง ไร้เยียวยาค่ารักษากว่า 2 ล้าน