
บรรยากาศ..ด้านหน้ารัฐสภา
เมื่อเวลา 14:15 น.ส.กัลยกร สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้เดินทางมาดูสถานที่จัดการชุมนุมในเย็นวันนี้หน้าอาคารรัฐสภา โดยได้มีการขอพื้นที่ในการชุมนุมบริเวณริมฟุตบาทไปจนถึงลานหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ตำรวจรัฐสภา และเจ้าหน้าที่รัฐสภา มาช่วยกำหนดพื้นที่การชุมนุม
โดย น.ส.กัลยกร ระบุว่า วันนี้เป็นการรวมตัวกันเพื่อแสดงจุดยืนให้วุฒิสมาชิกรับฟังเสียงของประชาชน ไม่ได้มาด้วยท่าทีกดดันหรือใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด โดยวุฒิสมาชิกที่ตัดสินใจแล้วว่าจะโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เราก็จะมาให้กำลังใจ ส่วนวุฒิสมาชิกที่ยังไม่ตัดสินใจ เราก็จะมาให้เหตุผลทางวิชาการว่า ทำไมคุณถึงต้องยืนอยู่ข้างประชาชน อีกไม่ถึงปีวุฒิสมาชิกก็ต้องหมดวาระแล้ว ก็ควรจะต้องรับฟังเสียงของประชาชน ส่วนวุฒิสมาชิกที่ประกาศจุดยืนแล้วว่าจะไม่โหวตให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็จะนำเสียงของประชาชนฝากถึงท่านเหล่านั้นผ่านข้อความต่าง ๆ
โดยรูปแบบของการจัดกิจกรรมในเย็นนี้ จะเป็นการจัดเวทีเสวนาวิชาการว่า ทำไมวุฒิสมาชิกต้องรับฟังเสียงของประชาชน ควบคู่ไปกับการแสดงดนตรีและการจัดกิจกรรมที่สบาย ๆ ไม่ใช้ความรุนแรงแต่อย่างใด เช่น จัดให้เขียนกระดาษจดหมายส่งไปถึงวุฒิสมาชิก เป็นต้น
โดย น.ส.กัลยกรกล่าวว่า คาดหวังว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้จะสามารถทำให้วุฒิสมาชิกที่ยังไม่ตัดสินใจ สามารถตัดสินใจยกมือให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะเรามาพูดคุยโน้มน้าวด้วยเหตุและผลเป็นหลัก ไม่ได้มีเจตนาในการมาบีบคั้นหรือขูดรีดบังคับให้วุฒิสมาชิกต้องยกมือให้แต่อย่างใด โดยยืนยันว่า การจัดการชุมนุมในเย็นวันนี้มาด้วยท่าทีที่สงบ เชื่อว่าไม่ถูกนำไปเป็นเครื่องมือหรือเงื่อนไขที่ทำให้วุฒิสมาชิกตัดสินใจไม่ยกมือให้นายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ น.ส.กัลยกร ยอมรับว่า การจัดการชุมนุมในครั้งนี้มี เสียงตอบรับที่ไม่ค่อยดีในโลกโซเชียลมีเดียและเข้าใจในความเป็นห่วงของทุกคน เพราะกลัวว่าจะเกิดความรุนแรง แต่ยืนยันว่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลใดก็ตาม การชุมนุมถือว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนย่อมสามารถจัดได้ และพวกเราก็อยากขับเคลื่อนการเมืองภาคประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย นอกจากที่จะขับเคลื่อนในรัฐสภาแล้ว
น.ส.กัลยกร มองว่า การชุมนุมวันนี้ไม่น่าเป็นห่วงเรื่องของความรุนแรง เนื่องจากมีการ์ดจากฝั่งประชาชนมาช่วยรักษาความปลอดภัยและรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากมือที่สาม รวมทั้งได้มีการประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัย และให้การช่วยเหลือหากเกิดกรณีสร้างสถานการณ์โดยมือที่สาม มั่นใจว่าจะสามารถรับมือสถานการณ์ที่ไม่อาจคาดคิดได้ ยืนยันว่าการชุมนุมครั้งนี้ได้จดแจ้งการชุมนุมตามกฎหมายแล้วและดำเนินขอพื้นที่จัดกิจกรรมกับทางรัฐสภาแล้ว
ด้าน มายด์ แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมาด้านหน้ารัฐสภา เพื่อร่วมสังเกตการณ์กิจกรรมการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา กิจกรรมในวันนี้จะเป็นการแสดงออกเพื่อให้ ส.ว. เคารพเสียงของ ไปยืนยันว่าไม่ได้มีความรุนแรง โดยก่อนหน้านี้มี ส.ว.หลายคน มักจะพูดว่ามีเงื่อนไขหลายข้อ ในการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรี ตนเองคิดว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นการย้ำเตือนว่า ส.ว. ไม่ได้ มีอำนาจ ในการในการ พิจารณา หรือพิเคราะห์สิทธิของประชาชน ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เพราะมองว่า บทบาทหน้าที่ ก็มีที่มาไม่ชอบธรรมตั้งแต่แรก และที่มาของส.ว.ชุดนี้ ก็ยังเป็นข้อครหาแก่ประชาชน
-และที่ ส.ว.บางส่วนออกมาไห้ความเห็นว่าการออกมาเรืยกร้อง กดดัน ส.ว. ด้วยวิธีการชุมนุมไม่ได้เป็นผลดี //มายด์ระบุว่า ส.ว. ไม่ควรจะมีความคิดเห็นใดๆ เลยเกี่ยวกับการชุมนุมของประชาชน จึงอยากให้เคารพสิทธิ์ของประชาชน จึงยอมรับการชุมนุมกันในวันนี้ ประชาธิปไตยเป็นการแสดงออกตามวิถีประชาธิปไตย ไม่ดุดันและไม่ใช้ความรุนแรง เมื่อประชาชนพูดด้วยเหตุผล สภาก็ควรรับฟังเสียงของประชาชน
-ส่วนประเด็นเรื่องที่ใน mou ไม่มี ม.112 นั้น ส่วนตัวมองว่า พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ยังไม่ได้มีท่าทีชัดเจนกับเรื่องนี้ หากบรรจุเรื่องนี้ลงในร่าง mou อาจจะเป็นการผูกมัดเกินไป แต่ส่วนตัวเชื่อว่า พักก้าวไกลจะผลักดันเรื่องนี้เรื่องนี้ ภายในสี่ปีนี้ แต่หากไม่เกิดขึ้นก็เชื่อว่าประชาชน จะเป็นผู้ผลักดันให้เกิดขึ้นเอง