ทั้งรักทั้งแค้น” ตำรวจปอศ. บุก รวบสาวใหญ่ จ้างวานฆ่าผัว
ปมเหตุความเจ้าชู้และถูกตบตีประจำ
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปอศ., พ.ต.ท.วีระพงษ์ หอมหวล รอง ผกก.1 บก.ปอศ. พ.ต.ต.สรัล ยศพลพิเนต สว.กก.1 บก.ปอศ. จับกุม นางเจริญศรี อายุ 41 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดไชยา ที่ 15/2557 ในฐานความผิด “ความผิดต่อชีวิต ลักทรัพย์ พรบ.อาวุธปืนฯ มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปศาลตามนัดเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทรณ์ภาค 8” โดยจับกุม บริเวณหน้าร้าน ณ.สุขสบาย นวดแผนไทย แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพ
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนทราบว่านางเจริญศรี มีพฤติการณ์หลบหนี ไม่ไปศาลตามนัดเพื่อฟังคำพิพากษาศาลอุทรณ์ภาค 8 หลบหนีมาพักอาศัยย่านตลาดถนอมมิตร แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน จึงสืบสวนหาข่าวจนทรา ผู้ต้องหาซึ่งหลบหนีมากว่า 8 ปี แฝงตัวมาเป็นหมอนวดแผนไทย และมากบดานอยู่ที่ ย่านตลาดถนอมมิตร แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน จึงได้จับกุม
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนอยู่กินกับสามีมาเป็นเวลา 11 ปี ก่อนเกิดเหตุ สามีเริ่มมีพฤติกรรมเจ้าชู้คบผู้หญิงไม่เลือกหน้า ทั้งยังนำเงินที่ตนหาได้ไปให้ผู้หญิงเหล่านั้น เมื่อตนรู้ความจริงก็มักจะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งและถูกทางอดีตสามีใช้กำลังทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ถึงแม้ตนจะรักและผูกพันธ์กับอดีตสามีแค่ไหน แต่ด้วยความกลัวที่ว่าวันหนึ่งสามีจะฆ่าตน
เนื่องจากสามีเป็นคนชอบพกปืนตลอดเวลาด้วยพฤติกรรมที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน จึงเกิดความแค้นที่สะสม จึงได้วางแผนจ้างวานมือปืนเพื่อจบชีวิตอดีตสามี ด้วยจำนวนเงิน 1 บาท หลังจากมือปืนก่อเหตุได้เอาสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาทและปืนที่อดีตสามีพกติดตัวไว้ไปด้วย จากนั้นตนได้หลบมาอยู่กรุงเทพและแฝงตัวประกอบอาชีพต่างๆ มากว่า 8 ปี จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ที่สุด