คดีเสี่ยชน ตร กองปราบ ตายรองผู้บัญาชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าสอบปากคำ นักธุรกิจขับเบนซ์ ชน เก๋ง ตำรวจสังกัดกองปราบปราม คู่สามี ภรรยา เสียชีวิต ลูก สาววัย16 ปี บาดเจ็บ พร้อมเตรียมแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ถือเป็นคดีแรกที่แจ้งข้อหาหนักกรณีเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สอบปากคำนักธุรกิจ ผู้ก่อเหตุขับรถเบนซ์ชนกับรถยนต์เก๋งของตำรวจกองปราบปราม กลางดึกที่ผ่านมา ด้วยตัวเอง เพราะ ถือเป็นคดีสำคัญและเป็นคดีแรกที่ผู้กระทำผิด เมาแล้วขับรถ จะถูกแจ้งข้อหาหนัก เพราะมีพฤติกรรมเมาแ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
พลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหา ให้การเบื้องต้นว่า ก่อนเกิดเหตุ ประมาณ 5 ทุ่ม ระหว่างตีกอล์ฟ ได้ดื่มเบียร์ไปประมาณ 5 ขวด ซึ่งยอมรับว่า รู้สึกมึนเมาจึงขับรถกลับบ้าน ซึ่งห่างจากสนามกอล์ฟ ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งไม่สามารถจำภาพเหตุการณ์ระหว่างนั้นได้ รู้สติอีกครั้ง เมื่อถุงลมนิรภัยกระแทกเข้าที่ใบหน้า
พลตำรวจเอกวิระชัย ระบุว่า นี่เป็นพฤติกรรมที่บ่งบอกได้ว่า ผู้ก่อเหตุขับรถโดยที่รู้ตัวอยู่แล้วว่า ไม่มีศักยภาพ ไม่สติ ในการขับขี่ยานพาหนะ แต่ยังฝืนขับรถกระทั่ง มาชนเข้ากับรถยนต์ ของผู้อื่น และ มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บสาหัส 1 คน จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่พนักวานสอบสวนจะใช้ประกอบการแจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
/ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้ยังมี 2 ข้อหา คือ เมาแล้วขับ และจับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้อื่นถึงแก่ความตายส่วนตัวผู้ต้องหา ยินดีให้ปากคำให้ชั้นพนักงานสอบสวน และยังสอบปากคำไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหลังจากขั้นตอนนี้ จะ ควบคุมตัวขออำนาจศาล ฝากขัง ตามขั้นตอน
ขณะเที่ครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นข้าราชการตำรวจ สังกัดกองปราบปราม ซและเป็นคูาสามี ภรรยา เดินทางมาพร้อมบุตรสาววัย16 ปี โดยบุตรสาวเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยายาล และอาการยังสาหัสซึ่งพลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยว่า ผู้บัญขาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับให้เยียวยาครอบครัวผู้ประสบเหตุให้ดีที่สุดสำหรับเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้น กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา บนถนนทวีวัฒนา -กาญจนาภิเษก